xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกตีข่าว “ทัพเรือไทย” จ่อนำระบบขีปนาวุธสุดล้ำ “ESSM” เข้าประจำการ ชี้เป็นชาติที่ 13 ของโลก-ที่ 2 ในเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สื่อต่างประเทศรายงาน ไทยสร้างประวัติศาสตร์เป็นดินแดนลำดับที่ 13 ของโลกและเป็นชาติที่ 2 ของเอเชียที่จะนำระบบขีปนาวุธแบบพื้นสู่อากาศของสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อ “Evolved Sea Sparrow Missile” หรือ “อีเอสเอสเอ็ม” มาใช้ในกองทัพเรือ

รายงานข่าวของสำนักข่าวยูพีไอซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐฯ รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัท “Raytheon” ซึ่งเป็นผู้ผลิตขีปนาวุธนำวิถีรายใหญ่ที่สุดในโลก ระบุว่า กองทัพเรือของไทยจะนำระบบขีปนาวุธสุดล้ำ “อีเอสเอสเอ็ม” ของสหรัฐฯ จำนวนอย่างน้อย 9 ชุด เข้าประจำการเพื่อปกป้องเรือรบของราชนาวีไทยจากการโจมตีจากขีปนาวุธซูเปอร์โซนิกต่อต้านเรือรบ รวมถึงการโจมตีจากเครื่องบินรบของศัตรู อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับวงเงินในการจัดซื้อในครั้งนี้ว่ามีมูลค่าเท่าใด

วิลเลียม เอช. สวอนสัน ประธานและซีอีโอของ “Raytheon” เผยที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในเมืองวอลแธม มลรัฐแมสซาชูเซตต์ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ของไทยได้ลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลสหรัฐฯ แล้วในการนำระบบอีเอสเอสเอ็มเข้าประจำการในกองทัพเรือไทย

ด้านริค เนลสัน รองประธานฝ่ายพัฒนาระบบขีปนาวุธของบริษัทดังกล่าวระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยเพิ่มพูนแสนยานุภาพของกองทัพเรือไทยในการรับมือกับภัยคุกคามทางทะเลในรูปแบบใหม่ๆ ในอนาคต

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ไทยกลายเป็นประเทศที่ 13 ของโลก ที่มีเทคโนโลยีอีเอสเอสเอ็มไว้ใช้งานต่อจากสหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา เยอรมนี ตุรกี กรีซ ญี่ปุ่น เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สเปน และนิวซีแลนด์ แต่ถือเป็นเพียงชาติที่ 2 ของเอเชียถัดจากญี่ปุ่นที่มีระบบขีปนาวุธที่มีพิสัยทำการไกลกว่า 27 ไมล์ทะเลชนิดนี้ไว้ใช้งาน

วิลเลียม เอช. สวอนสัน ประธานและซีอีโอของ “Raytheon”ผู้ผลิตขีปนาวุธนำวิถีรายใหญ่ที่สุดในโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น