นิสสัน เดินหน้าผลิตรถพลังไฟฟ้า “ลีฟ อีวี” เต็มตัวในเมืองลุงแซม ใช้รัฐ “เทนเนสซี” เป็นฐาน

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นิสสัน มอเตอร์ ผู้ผลิตรถรายใหญ่อันดับ 6 ของโลก ประกาศเริ่มเดินสายการผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ “นิสสัน ลีฟ อีวี” อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี (10) ที่โรงงานในมลรัฐเทนเนสซีของสหรัฐฯ โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากเงินกู้จำนวน 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 42,500 ล้านบาท) ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ คาดสามารถผลิตยานยนต์รุ่นดังกล่าวซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ราว 150,000 คันต่อปี รวมถึงแบตเตอรีที่ใช้กับรถรุ่นนี้อีกปีละ 200,000 ลูก

คาร์ลอส กอสน์ ซีอีโอเชื้อสายฝรั่งเศส-เลบานอน-บราซิล วัย 58 ปีของนิสสัน ซึ่งควบตำแหน่งซีอีโอของค่ายรถยนต์เรโนลต์แห่งฝรั่งเศสอีกตำแหน่ง แสดงความมั่นใจว่าอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส โดยคาดการณ์ว่าราว 10 เปอร์เซ็นต์ของรถที่ถูกจำหน่ายทั่วโลกภายในปี ค.ศ. 2020 จะเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน พร้อมย้ำว่านิสสันเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวในขณะนี้ ที่สามารถผลิตแบตเตอรีสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าได้ด้วยตัวเอง โดยอาศัยโรงงานในสหรัฐฯ เป็นฐาน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังจากยอดขายของรถนิสสัน ลีฟ ในตลาดสหรัฐฯ ในปี 2012 ที่ผ่านมา ถือว่าไม่สดใสนัก โดยนิสสันสามารถจำหน่ายรถรุ่นดังกล่าวได้ 9,819 คัน เพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2011 เพียง 1.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าเป้าหมายของทางบริษัทเกือบเท่าตัว

อย่างไรก็ดี นิสสันมิใช่ค่ายรถยนต์เพียงแห่งเดียวที่ประสบปัญหาในการจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้า ในตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากเมื่อปีที่แล้ว ฟอร์ด มอเตอร์ สามารถจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้า รุ่น โฟกัส อีวีได้เพียง 685 คันเท่านั้น จากจำนวนที่ผลิตออกมา 1,627 คัน ขณะที่ค่ายเจเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ก็มีอันต้องปรับลดเป้าการขายรถยนต์ไฮบริดแบบ “plug-in” เชฟโรเลต โวลต์ ลงเช่นกัน