xs
xsm
sm
md
lg

“โอบามา” เสนอชื่อ รมว.กลาโหม-ผอ.ซีไอเอคนใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์(7) ว่าเขาเสนอชื่อ ชัค เฮเกล (ซ้าย) อดีตวุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน เป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ และ จอห์น เบรนแนน (ขวา) ที่ปรึกษาด้านต่อต้านการก่อการร้ายของทำเนียบขาว เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการซีไอเอ
เอเจนซีส์ - “โอบามา” เสนอชื่อ “ชัค เฮเกล” อดีต ส.ว.รีพับลิกัน รับหน้าที่รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ และ “จอห์น เบรนแนน” ที่ปรึกษาด้านต่อต้านการก่อการร้ายของทำเนียบขาวเป็นผู้อำนวยการซีไอเอ คาดแม้ประธานาธิบดีวอนขอให้เห็นแก่ความมั่นคงของประเทศ ทว่ารีพับลิกันในสภาสูงก็เตรียมขวางเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฮเกล ซึ่งแม้อยู่พรรคเดียวกันกับพวกเขามานมนาน แต่ก็ถูกกล่าวหาว่าแข็งกร้าวเกินพอดีกับอิสราเอล ขณะอ่อนแอเกินไปกับอิหร่าน

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงเมื่อวันจันทร์ (7) แสดงความหวังว่า วุฒิสภาจะลงมติให้การรับรองบุคคลที่เขาเสนอชื่อทั้ง 2 คนในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อเห็นแก่ความมั่นคงของประเทศในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่คณะรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนตัวผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ หลายตำแหน่ง

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนเฮเกล วัย 66 ปี จะต้องเผชิญศึกหนักในสภาสูงที่เดโมแครตครองเสียงข้างมาก ถึงแม้โอบามาพร่ำชมออกนอกหน้าว่า อดีตวุฒิสมาชิกจากมลรัฐเนแบรสกา สังกัดพรรครีพับลิกันผู้นี้ เป็นบุคคลที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการคุมกระทรวงกลาโหม ด้วยเกียรติประวัติเป็นทหารผ่านศึกผู้กล้าซึ่ง “มีรอยแผลเป็นและรอยกระสุนดาวกระจายจากการต่อสู้ในสงครามเวียดนาม”

วุฒิสมาชิกเดโมแครตบางคนแสดงท่าทีให้การสนับสนุนเฮเกลแบบเสียไม่ได้ ขณะที่ชาวรีพับลิกันมากมายแสดงความกังวลอย่างมาก โดยที่หลายคนไม่เคยยกโทษให้เฮเกล ที่หาญวิจารณ์การดำเนินสงครามอิรักของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช จากรีพับลิกัน อย่างไม่ไว้หน้า รวมทั้งตราหน้าว่าเฮเกลเป็นคนทรยศจากการที่เขาใกล้ชิดกับประธานาธิบดีโอบามาที่สังกัดพรรคเดโมแครต

นอกจากนี้ เฮเกลยังเคยโจมตีเกี่ยวกับอิทธิพลของ “กลุ่มล็อบบี้ยิว” ในวอชิงตัน และเรียกร้องให้เปิดเจรจาโดยตรงกับอิหร่านเรื่องแผนการนิวเคลียร์ มิหนำซ้ำในปี 1998 เฮเกลยังเคยคัดค้านไม่ให้ชายที่เปิดเผยว่าเป็นพวกรักร่วมเพศ เข้าดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตอเมริกัน ถึงแม้ในภายหลังเขาได้ออกคำแถลงขอโทษก็ตาม

ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน วิจารณ์ว่า เฮเกลจะเป็นรัฐมนตรีกลาโหมที่แสดงตนป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอลมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน

จอห์น คอร์นิน วุฒิสมาชิกรีพับลิกันอีกคนรับลูกว่า การแต่งตั้งเฮเกลเท่ากับเป็นการส่งสาส์นที่เลวร้ายที่สุดถึงอิสราเอลและพันธมิตรในตะวันออกกลาง

ในบทสัมภาษณ์หลังการประกาศการเสนอชื่อเฮเกล กล่าวกับลินคอล์น เจอร์นัล สตาร์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเนแบรสกาว่า ฝ่ายตรงข้ามบิดเบือนประวัติของตน และสำทับว่า ไม่มีหลักฐานแม้แต่นิดเดียวว่า ตนต่อต้านอิสราเอล

เฮเกลยังประกาศสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ รวมทั้งสนับสนุนการใช้ไม้แข็งกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน

ทั้งนี้ หากได้รับการรับรองจากสภาสูงให้เข้าเป็นรัฐมนตรีกลาโหมแล้ว เฮเกลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบการหั่นงบการทหารครั้งใหญ่ ควบคู่กับการยุติปฏิบัติการทางทหารในอัฟกานิสถาน และการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่อาจจะปะทุขึ้นในอิหร่านหรือซีเรีย

โอบามา เสนอชื่อ เฮเกล โดยที่ เลียน เพเนตตา ผู้เป็นบิ๊กบอสเพนตากอนคนปัจจุบัน บอกแล้วว่าไม่ประสงค์จะดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป

ในทางตรงข้าม ดูเหมือนว่า เบรนแนน วัย 57 ปี จะถูกต่อต้านน้อยกว่ามาก โดยเขาถูกวางตัวให้ทำหน้าที่สืบต่อจาก เดวิด เพเทรอัส อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ของสหรัฐฯ ที่ยื่นใบลาออกเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากยอมรับว่า มีความสัมพันธ์นอกสมรสกับพอลา บรอดเวลล์ ผู้เขียนชีวประวัติของตนเอง

เบรนแนน ลูกหม้อที่ทำงานในซีไอเอถึง 25 ปี เคยถอนตัวจากการได้รับเสนอชื่อรับตำแหน่งผู้อำนวยการซีไอเอในปี 2008 ขณะที่ถูกวิจารณ์กรณีการแสดงความคิดเห็นที่บ่งชี้ถึงวิธีการสอบปากคำนักโทษด้วยการทรมานในยุคคณะรัฐบาลของบุช ถึงแม้ไม่ปรากฏหลักฐานว่า เบรนแนนมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องเช่นนี้แต่อย่างใด

นอกจากนั้น ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาด้านการต่อต้านการก่อการร้ายของทำเนียขาว เบรนแนนยังมีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการลับที่นำไปสู่การปลิดชีพอุสซามะห์ บิน ลาดินในปี 2011 รวมถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยอากาศยานไร้นักบิน (โดรน) ในเยเมน และปฏิบัติการอื่นๆ อีกมากมาย
โอบามารีบรุดกลับทำเนียบขาว ถกผ่าทางตัน “หน้าผาการคลัง”
โอบามารีบรุดกลับทำเนียบขาว ถกผ่าทางตัน “หน้าผาการคลัง”
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ตัดการหยุดพักผ่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาสในฮาวายให้สั้นลง แล้วเร่งเดินทางกลับถึงกรุงวอชิงตันในวันพฤหัสบดี(27) เพื่อเปิดการเจรจาต่อรองกับฝ่ายรีพับลิกัน ในการสกัดกั้นภาวะ “หน้าผาการคลัง” ซึ่งมาตรการลดภาษีเงินได้ให้ชาวอเมริกันจำนวนมากจะหมดอายุลง ขณะที่งบประมาณรายจ่ายของประเทศก็ถูกบังคับตัดลดลงไปก้อนมหึมาโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม และนักเศรษฐศาสตร์ต่างเตือนว่าจะส่งผลให้อเมริกากลับเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย กระนั้นก็ตาม เวลานี้รีพับลิกันกับเดโมแครตยังคงไม่เลิกตั้งแง่ใส่กัน
กำลังโหลดความคิดเห็น