แอลเอไทมส์ - จอห์น โบลตัน อดีตทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นชี้ รัฐมนตรีต่างประเทศฮิลลารี คลินตัน แสร้งล้มป่วยสมองได้รับการกระทบกระเทือน เพื่อที่จะหลบเลี่ยงการขึ้นให้การกรณีสถานกงสุลอเมริกันในเมืองเบงกาซี ลิเบีย ถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี ต่อสภาคองเกรส
โบลตันกล่าวระหว่างปรากฏตัวทางสถานีโทรทัศน์ฟอกซ์นิวส์ว่า ข้ออ้างของคลินตันที่ว่าเธอเป็นลมเนื่องจากอาการหวัดจนล้มศีรษะกระแทกพื้นทำให้มีอาการมึนศีรษะรุนแรงนั้น เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่กิจการต่างประเทศเรียกว่า “อาการป่วยทางการทูต” เพื่อหลีกหนีภาระหน้าที่ที่ไม่ปรารถนา
ทั้งนี้ คลินตันจะต้องให้การต่อคณะกรรมการกิจการต่างประเทศของสภาคองเกรสในวันพฤหัสบดี (20) เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับความล้มเหลวในการรักษาความปลอดภัยจนนำไปสู่การโจมตีนองเลือดเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา
“นี่เป็นอาการป่วยทางการทูตเพื่อหลีกเลี่ยงพันธะ” โบลตัน ซึ่งเคยทำหน้าที่ทูตประจำยูเอ็นในสมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชกล่าว “ผมหมายถึง ผมหวังว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรง”
ด้าน วิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนกรานกับผู้สื่อข่าวในวันอังคาร (18) ว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าคลินตันแกล้งป่วยนั้น “ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง”
เธอกล่าวว่า โบลตัน และคนอื่นๆ ที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการป่วยของคลินตันนั้นเป็นบุคคลที่ไม่รู้อะไรเลย
“น่าเสียดายที่ในเวลาเช่นนี้ ผู้คนมักคาดการณ์กันไปอย่างคึกคะนองโดยไม่มีข้อมูลอะไร”
หลังจากคลินตันถอนตัวจากการให้การในกรณีดังกล่าว ก็ทำให้เกิดกระแสคาดเดากันว่า เธอต้องการจบตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศโดยไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ เกี่ยวกับการโจมตีครั้งนั้น และเธอก็แสดงท่าทีว่าจะไม่รับตำแหน่งในรัฐบาลสมัยที่ 2 ของประธานาธิบดีบารัค โอบามาอีก
นอกจากนี้ บรรดาบล็อกเกอร์ และนักวิจารณ์หัวอนุรักษนิยมต่างก็กังขาต่อตัวคลินตันเช่นกัน โดยฟอกซ์นิวส์ยังระบุว่า อาการป่วยของเธอนั้น เป็นข้ออ้าง
อย่างไรก็ดี คลินตันได้ชี้แจงในจดหมายถึงคณะกรรมการดังกล่าวของสภาคองเกรสว่า เธอจะให้การกับพวกเขาภายหลังในเดือนมกราคม