เอเจนซีส์ - มือปืนวัยดึกที่เคยติดคุก 17 ปี ข้อหาฆาตกรรมย่าตัวเอง จุดไฟเผาบ้านล่ออาสาสมัครดับเพลิงมาฆ่าด้วยการซุ่มยิง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอีก 3 ก่อนยิงตัวตายตาม โดยเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นใกล้เมืองโรเชสเตอร์ มลรัฐนิวยอร์ก คราวนี้ทำให้การถกเถียงเรื่องกฎหมายควบคุมอาวุธปืนกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง
เจอรัลด์ พิกเคอริง ผู้บังคับการตำรวจเมืองเว็บสเตอร์ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (24) ว่า วิลเลียม สเปนเกลอร์ วัย 62 ปี วางกับดักล่อด้วยการจุดไฟเผาบ้านและรถยนต์ แล้วตนเองก็ซุ่มรอเพื่อลอบยิงเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน
สเปนเกลอร์เคยถูกตัดสินจำคุกข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาทในปี 1981 จากการใช้ค้อนทุบย่าวัย 92 ปีเสียชีวิต และแม้จะได้รับการปล่อยตัวหลังจากถูกจองจำอยู่ 17 ปี แต่เขาก็ยังต้องอยู่ในการคุมประพฤติของเจ้าหน้าที่อีก 8 ปี
พิกเคอริงบอกว่า ยังไม่ทราบแรงจูงใจในการหลอกล่อดักยิงเจ้าหน้าที่คราวนี้ แต่พิจารณาจากประวัติของเขาก็เห็นได้ชัดว่าสเปนเกลอร์เป็นผู้ที่มีปัญหามากมาย
ทั้งนี้ สเปนเกลอร์เปิดฉากลั่นไกเมื่อเวลา 05.45 น. วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อมีอาสาสมัครดับเพลิง 2 คนเดินทางถึงที่เกิดเหตุด้วยรถดับเพลิง ขณะที่อาสาสมัครอีก 2 คนขับรถส่วนตัวไป ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 2 คน นอกจากนั้นยังมีตำรวจที่ออกเวรแล้วอีกคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จากนั้นสเปนเกลอร์จึงยิงตัวตาย
พิกเคอริงเสริมว่า ตำรวจตรวจพบอาวุธหลายชนิดในที่เกิดเหตุ ซึ่งรวมถึงปืนไรเฟิลที่ใช้ยิงเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ขณะที่บ้านเรือนซึ่งถูกวางเพลิงนั้นมี 4 หลังถูกไฟไหม้หมด อีก 4 หลังได้รับเสียหาย อย่างไรก็ดี ตำรวจยังไม่พบตัวพี่สาวที่พำนักอาศัยในที่อยู่แห่งเดียวกับสเปนเกลอร์ และยังไม่สามารถเข้าไปตรวจค้นหาหลักฐานภายในซากบ้านที่ไหม้ได้
ทางด้าน แอนดริว คูโอโม ผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า ตำรวจและสำนักงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐ ทำงานประสานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ในการรับมือเหตุร้ายคราวนี้
คูโอโมยังแสดงความเสียใจต่อเหยื่อเคราะห์ร้ายของ “การยิงอย่างน่าขนลุก” และ “การก่อความรุนแรงโดยไร้อารมณ์ความรู้สึก” ครั้งนี้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียง 10 วันหลังเหตุกราดยิงในโรงเรียนประถมที่เมืองนิวตัน มลรัฐคอนเนตทิคัต ซึ่งมือปืนเด็กหนุ่มไล่ยิงเด็กเล็กอายุ 6-7 ปี เสียชีวิต 20 คน และผู้ใหญ่อีก 6 คน
มือปืนที่ถูกระบุชื่อว่า อดัม แลนซา ฆ่าแม่ตัวเองก่อนออกจากบ้านเพื่อไปที่โรงเรียนดังกล่าว และหลังก่อเหตุได้ยิงตัวตายเช่นเดียวกัน
โศกนาฏกรรมในเมืองนิวตันทำให้ประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมอาวุธปืนในอเมริกาถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งนี้สหรัฐฯ เป็นประเทศพัฒนาแล้วซึ่งมีกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธปืนที่อ่อนแอที่สุดรายหนึ่ง ขณะที่รัฐธรรมนูญประกาศรับรองสิทธิเสรีภาพในการครอบครองปืน รวมทั้งกลุ่มล็อบบี้เพื่อคุ้มครองสิทธินี้ก็เป็นพวกที่มีอิทธิพลสูงยิ่งทั้งต่อพรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครต
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศสนับสนุนการออกกฎหมายใหม่ที่ห้ามการครอบครองปืนไรเฟิลจู่โจม พร้อมแต่งตั้งรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณามาตรการอื่นๆ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การรักษาความปลอดภัยสถานศึกษาจนถึงการเพิ่มการดูแลสุขภาพจิตของประชาชน
ไดแอนน์ ไฟน์สไตน์ วุฒิสมาชิกเดโมแครตเผยว่า จะเสนอร่างกฎหมายจำกัดการเคลื่อนย้าย, การนำเข้า และการครองครอง ปืนไรเฟิลอานุภาพร้ายแรง อย่างน้อยก็ประเภทปืนกึ่งอัตโนมัติแบบทหาร
ทว่า สมาคมปืนไรเฟิลแห่งอเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้พิทักษ์สิทธิครอบครองปืนกลุ่มสำคัญที่สุด คัดค้านร่างกฎหมายเช่นนี้ และโจมตีข้อเสนอของไฟน์สไตน์ว่า “เสแสร้ง”
ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา อเมริกาต้องเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดในการก่อความรุนแรงด้วยอาวุธปืน ในจำนวนนี้รวมถึงเหตุการณ์การกราดยิงครั้งใหญ่ 62 ครั้ง