รอยเตอร์ - สภาแห่งชาติลิเบียมีคำสั่งปิดชายแดนชั่วคราว พร้อมประกาศให้ทะเลทรายทางตอนใต้ของประเทศเป็นเขตทหารห้ามบุคคลภายนอกรุกล้ำ วานนี้ (16) หลังจากสถานการณ์ความไม่สงบส่อเค้าทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
สำนักข่าว LANA เผยแพร่แถลงการณ์จากสภาคองเกรสแห่งลิเบีย ซึ่งออกคำสั่ง “ปิดชายแดนส่วนที่ติดกับชาด, ไนเจอร์, ซูดาน และแอลจีเรีย เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอื่น”
นอกจากนี้ยังมีประกาศให้พื้นที่จังหวัดฆอดาเมส, ฆัต, โอบารี, อัล-ชาตี, ซาบา, มุรซุก และคุฟรา เป็นเขตทหารห้ามบุคคลภายนอกเข้า
คำสั่งดังกล่าวให้อำนาจกระทรวงกลาโหมแต่งตั้งผู้ปกครองทหารจากภายนอก ซึ่งมีอำนาจจับกุมผู้หลบหนีกระบวนการยุติธรรม และส่งตัวผู้อพยพผิดกฎหมายออกนอกประเทศ
นายกรัฐมนตรีอาลี ไซดาน ซึ่งเดินทางกลับจากการเยือนประเทศเพื่อนบ้านตลอดสัปดาห์ที่แล้ว เรียกร้องให้จัดการประชุมเจ้าหน้าที่ชาด, ไนเจอร์, มาลี และซูดาน ที่ลิเบีย เพื่อหารือปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดน
สมาชิกสภาคองเกรสจากจังหวัดทางใต้ไม่ยอมเข้าประชุมสภามาแล้วหลายครั้ง เพื่อประท้วงสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นจากฝีมือกลุ่มติดอาวุธและขบวนการค้ายาเสพติด
“คำสั่งนี้แสดงให้เห็นว่า คองเกรสเข้าใจสถานการณ์ความมั่นคงที่กำลังย่ำแย่ในภาคใต้” โมฮาเหม็ด เมนาวี อัล-ฮูเดียรี สมิกสภาคองเกรสจากจังหวัดซาบา ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นักโทษเกือบ 200 คนได้หลบหนีอกจากเรือนจำในจังหวัดซาบา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปะทะระหว่างชนเผ่าต่างๆ ตั้งแต่ช่วงที่ลิเบียเกิดสงครามกลางเมืองขับไล่ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อปลายปีที่แล้ว
การฟื้นคืนความสงบในภาคใต้มิใช่ประเด็นความมั่นคงภายในลิเบียเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเสถียรภาพในภูมิภาคแอฟริกาด้วย เนื่องจากพื้นที่แถบนี้ถูกใช้เป็นเส้นทางขนอาวุธเถื่อนไปถึงมือกลุ่มอัลกออิดะห์ในทะเลทรายสะฮารา