เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับลงและทองคำดิ่งแรงเมื่อวันพฤหัสบดี (13) จากความกังวลต่อวิกฤตหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยนี้บดบังข้อมูลบวกภาคแรงงานกับยอดค้าปลีก ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบเช่นกัน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 88 เซ็นต์ ปิดที่ 85.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 18 วันก็จะถึงวันที่ 1 มกราคม เส้นตายการขึ้นภาษีและตัดลดงบประมาณโดยอัตโนมัติหรือภาวะ “หน้าผาการคลัง” แต่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครตกับสมาชิกสภาของรีพับลิกัน ยังประนีประนอมกันไม่ได้
“ท่านประธานาธิบดีต้องการอวดอ้างว่าการใช้จ่ายไม่มีปัญหา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเรายังถึงตกลงกันไม่ได้” นายจอห์น โบเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พรรครีพับลิกันกล่าวต่อสื่อมวลชน และความเห็นนี้เองที่ก่อความกังวลต่อนักลงทุนไม่น้อย
ปัจจัยดังกล่าวส่งแรงสั่นสะเทือนมาถึงวอลล์สตรีท โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (13) ปิดลบพอประมาณ แม้เศรษฐกิจอเมริกาเผยข้อมูลบวกออกมาต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นตลาดแรงงาน ยอดค้าปลีกและอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 71.65 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,173.80 จุด แนสแดค ลดลง 21.65 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,992.16 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 8.77 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,419.71 จุด
ด้านทองคำวานนี้ (13) ดิ่งลงอย่างแรง จากคำเตือนของประธานเฟดต่อวิกฤตหน้าผาการคลัง แม้เพิ่งเผยข่าวดีเกี่ยวกับมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวเพิ่มเติมอีก 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
ราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 21.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,696.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ความเคลื่อนไหวในทางลบของราคาทองคำ เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ในบ่ายของการซื้อขายเมื่อวันพุธ(12) ลากยาวจนถึงวันพฤหัสบดี (13) หลัง เบน เบอร์นันกี เตือนว่ารัฐสภาและทำเนียบขาวต้องเร่งหาทางคลี่คลายวิกฤตหน้าผาการคลัง ที่อาจดันเศรษฐกิจอเมริกากลับสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า