เอเอฟพี/เอเจนซี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันพุธ (12) ประกาศแผนซื้อพันธบัตรรอบใหม่ วงเงิน 45,000 ดอลลาร์ต่อเดือนตามความคาดหมาย เพื่อรองรับแนวโน้มเศรษฐกิจเมื่อมาตรการ Operation Twist หมดอายุลง พร้อมกันนั้นยังตั้งเป้าระดับคนว่างงานและอัตราเงินเฟ้อสำหรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก ความเคลื่อนไหวหลังที่สร้างความประหลาดใจแก่นักวิเคราะห์ ที่คาดกันว่าคงต้องรอไปจนกระทั่งปีหน้า
ในความพยายามส่งสัญญาณที่ดีขึ้นเกี่ยวกับเส้นทางเดินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยระดับร้อยละ 0-0.25 มานานกว่า 4 ปี ในถ้อยแถลงของเฟดวานนี้ (12) ระบุว่าจะไม่ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยต่ำเตี้ยติดพื้นนี้จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะต่ำกว่าร้อยละ 2.5 และหากว่าอัตราคนว่างงานยังคงมากกว่าร้อยละ 6.5 ขณะที่ตอนนี้อัตราคนว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 7.7
ด้วยที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตในระดับปานกลาง คณะกรรมการกำกับนโยบายตลาดการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ยังประกาศแผนเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาววงเงิน 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน แทนมาตรการ “Operation Twist” ซึ่งจะหมดอายุลงในช่วงสิ้นปี 2012
แผนล่าสุดนี้ส่งผลให้รวมแล้วการเข้าซื้อสินทรัพย์หรือมาตรการการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ (QE) ทั้งพันธบัตรของกระทรวงการคลังและตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์จำนองค้ำประกัน ซึ่งมีเป้าหมายกดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวเพื่อสนับสนุนการลงทุน เพิ่มขึ้นเป็นสูงถึง 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนเข้าให้แล้ว
หลังจากการประชุมของคณะกรรมการกำกับนโยบายตลาดการเงินซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน นายเบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ย้ำว่าเศรษฐกิจของประเทศที่แม้จะเติบโตในอัตราปานกลาง แต่ก็ยังถูกฉุดรั้งไว้โดยอัตราคนว่างงานระดับสูง ที่เขาบอกว่าก่อความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อศักยภาพในทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้เขายังเตือนไปถึงสภาคองเกรสและทำเนียบขาว ว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะหาทางคลี่คลายวิกฤตหน้าผาการคลังอย่างเร่งด่วน ด้วยความกังวลว่ามันอาจฉุดเศรษฐกิจกลับคืนสู่ภาวะถดถอยอีกครั้งในปีหน้า