เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้ (12) ขยับขึ้น หลังโอเปกมีมติคงกำลังผลิตและดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลังเฟดขยายขอบเขตซื้อพันธบัตรกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจัยนี้เองก็ผลักให้ทองคำพุ่งแรง แต่วอลล์สตรีทแค่ทรงตัว เหตุเพราะเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหมายไว้
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 98 เซ็นต์ ปิดที่ 86.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและโอเปกมีมติคงกำลังผลิตส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นในช่วงต้นของการซื้อขาย แต่ความคึกคักก็มีแค่จำกัดลงหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยข้อมูลคลังเชื้อเพลิงสำรองรายสัปดาห์ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ธันวาคม พบว่าสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นถึง 843,000 บาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายไว้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (12) ปิดทรงตัว หลังธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) แถลงขยายขอบเขตซื้อพันธบัตรเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ความเคลื่อนไหวที่เป็นไปตามที่คาดหมายไว้แล้วก่อนหน้านี้
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ลดลง 3.30 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,245.14 จุด แนสแดค ลดลง 8.49 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,013.81 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 0.71 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,428.55 จุด
คณะกรรมการกำกับนโยบายตลาดการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพุธ (12) จะเริ่มเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาววงเงิน 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนโดยไม่จำกัดระยะเวลา และจะคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่อัตราคนว่างงานสหรัฐฯ ยังคงมากกว่าร้อยละ 6.5 โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่นี้จะถูกนำมาใช้แทนมาตรการ “Operation Twist” ซึ่งจะหมดอายุลงในช่วงสิ้นปี 2012
ปัจจัยดังกล่าวก่อความคึกคักอย่างยิ่งต่อนักลงทุนในตลาดทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (12) ปิดบวกพอสมควร โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 8.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,717.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์