เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีหญิง ดิลมา รุสเซฟฟ์ แห่งบราซิล ประกาศเมื่อวันพุธ (12) ว่ารัฐบาลของเธอจะเดินหน้าโครงการสร้างสนามบินใหม่ เพิ่มอีกอย่างน้อย 800 แห่งทั่วประเทศ
ผู้นำหญิงของแดนแซมบ้า วัย 64 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจ ต่อจากอดีตประธานาธิบดีลุยช์ อินาซิว ลูลา ดาซิลวา เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว เผยระหว่างเดินทางเยือนกรุงปารีสของฝรั่งเศสในวันพุธ (12) เพื่อพบกับบรรดานักธุรกิจชั้นนำของเมืองน้ำหอม โดยเธอยืนยันว่า บราซิลจำเป็นต้องมีสนามบินแห่งใหม่โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 800 แห่ง
รุสเซฟฟ์ระบุว่า เนื่องจากบราซิลเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ ไม่ต่างจากเป็น “ทวีปขนาดย่อมๆ” และยังมีจำนวนประชากรกว่า 194ล้านคน ดังนั้น บราซิลจึงมีความจำเป็นที่ต้องเดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ โครงการสร้างสนามบินเพิ่มอีกอย่างน้อย 800 แห่งในเมืองต่างๆ ที่มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 1แสนคนขึ้นไป อย่างไรก็ดี ผู้นำหญิงของบราซิลไม่เปิดเผยถึงตัวเลขงบประมาณจำนวนมหาศาลที่ต้องนำมาใช้ในโครงการนี้
“ประเทศของเรามีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ และใหญ่เป็นลำดับที่ 5 ของโลก เราต้องการให้ทุกเมืองที่มีประชากรเกินกว่า 1 แสนคนมีสนามบินเป็นของตัวเองภายในรัศมี 60 กิโลเมตรจากตัวเมือง สิ่งนี้มิใช่โครงการที่เพ้อฝัน แต่มันจำเป็นต่อการเติบโตของประเทศเราอย่างยิ่งยวด” ผู้นำหญิงของบราซิลกล่าว พร้อมยืนยันว่า การที่เศรษฐกิจของบราซิลสามารถเติบโตได้เพียงร้อยละ 1 ในปีนี้ จะไม่เป็นอุปสรรคต่อแผนการยักษ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ บราซิล ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าประเทศสเปนถึง 17 เท่า ถูกมองว่า กำลังหาทางเร่งพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานของตัวเองอย่างขนานใหญ่เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากอัตราการเติบโตที่เคยพุ่งสูงถึงร้อยละ 7.5 เมื่อปี 2010 กลับลดฮวบเหลือเพียงร้อยละ 2.7 เมื่อปีที่แล้ว และร้อยละ 1 ในปีนี้ นับเป็นอัตราการเติบโตของจีดีพีที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศ “BRICS” หรือ กลุ่มแกนนำชาติเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่อื่นๆ คือ จีน อินเดีย รัสเซียและแอฟริกาใต้
