เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เศรษฐกิจของ “ดินแดนแซมบ้า” บราซิลซึ่งได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก อาจมีการเติบโตเพียงแค่ร้อยละ 2.05 เท่านั้นในปีนี้ ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยล่าสุดจาก “บังกู เซนตราล ดู บราซิล” หรือธนาคารกลางแห่งบราซิล
รายงานข่าวซึ่งอ้างอเล็กซานเดร อันโตนิว ตอมบินี ประธานธนาคารกลางบราซิลระบุว่า เศรษฐกิจของบราซิลในปีนี้อาจมีการเติบโตเพียงร้อยละ 2.05 ลดลงจากการประเมินครั้งล่าสุดที่ระบุ การเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ อาจอยู่ที่ราวร้อยละ 2.18
นอกจากนั้น ธนาคารกลางบราซิลยังคาดการณ์ว่า ภาวะเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนข้างหน้า อาจพุ่งแตะระดับร้อยละ 5.5 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมาที่ระบุ อัตราเงินเฟ้อของประเทศจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.48
การประกาศตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจล่าสุดของธนาคารกลางแดนแซมบ้า มีขึ้นในช่วงเดียวกับที่นักวิเคราะห์จากหลายสำนักลงความเห็นว่า เศรษฐกิจของบราซิล ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ ได้เริ่มคลายความร้อนแรงลงแล้ว หลังจากที่เมื่อปี ค.ศ. 2010 หรือ 2 ปีที่แล้วเศรษฐกิจของบราซิลเคยทำสถิติเติบโตสูงถึงร้อยละ 7.5
สาเหตุสำคัญมาจากการที่ราคาสินค้าเกษตรและแร่ธาตุ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของบราซิล มีราคาตกต่ำในตลาดโลก ขณะที่ภาคการผลิตและการบริการที่เคยเป็นแหล่งรายได้สำคัญ ก็เริ่มถูกตีตลาดจากคู่แข่งรายใหม่ๆ มากขึ้น ประกอบกับความไม่ชัดเจนด้านนโยบายเศรษฐกิจในยุคของประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์อย่างนางดิลมาร์ รุสเซฟฟ์ ที่เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว ต่างเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจของบราซิลไม่ร้อนแรงดังเช่นหลายปีที่ผ่านมา