xs
xsm
sm
md
lg

คิดมาได้! “เปอโยต์-ซีตรอง” ค่ายรถดังเมืองน้ำหอมประกาศลอยแพเพิ่ม 1,500 ตำแหน่ง หลังยอดขายตก ชี้ “ปลดคนงาน” ดีกว่า “ปลดผู้บริหาร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - “เปอโยต์-ซีตรอง” ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส ประกาศปลดคนงานในสังกัดเพิ่มอีก 1,500 ราย หลังยอดขายในยุโรปลดฮวบ ชี้การ “ปลดคนงาน” ส่งผลดีต่อบริษัทมากกว่าการ “ปลดผู้บริหาร”

รายงานข่าวระบุว่า พีเอส เปอโยต์ ซีตรอง ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของทวีปยุโรปรองจากค่ายโฟล์คสวาเกน ประกาศจะเดินหน้าแผนปลดคนงานเพิ่มอีก 1,500 ตำแหน่งภายในปี 2014 เพื่อชดเชยกับยอดขายในยุโรปที่ทำสถิติลดลงต่ำสุดในรอบ 17 ปี

โจนาธาน กู๊ดแมน โฆษกของยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงปารีส เผยว่า การปลดพนักงานรอบใหม่อีก 1,500 ตำแหน่งในครั้งนี้เป็นคนละส่วนกับการปลดพนักงาน 8,000 คนที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมย้ำว่าการ “ปลดคนงาน” เป็นมาตรการที่ส่งผลดีต่อบริษัทมากกว่าการ “ปลดผู้บริหาร”

“เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการสั่งปลดคนงานของเรา เพื่อชดเชยกับความสูญเสียจากยอดขายที่ตกต่ำในยุโรป และเราเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อองค์กรของเรามากกว่าการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร” กู๊ดแมนกล่าว พร้อมเผยว่านอกจากแผนการปลดคนงานเพิ่มเติมแล้ว ทางผู้บริหารของเปอโยต์-ซีตรอง ยังเตรียมปิดโรงงานผลิตที่ตั้งอยู่ชานกรุงปารีสด้วย ขณะเดียวกันก็จะมีการประกาศขายทรัพย์สินในความครอบครองที่ไม่จำเป็นต่อการทำธุรกิจออกไป เพื่อลดค่าใช้จ่ายขององค์กร

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของค่ายยานยนต์ชื่อดังแห่งเมืองน้ำหอมมีขึ้นหลังยอดขายรถในยุโรปปีนี้ทำสถิติร่วงลงต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1995 หรือต่ำที่สุดในรอบ 17 ปี เพราะผลพวงจากวิกฤตหนี้สินของหลายประเทศในกลุ่มยูโรโซน หรือ 17 ประเทศที่ใช้ “เงินยูโร” เป็นเงินตราสกุลหลัก

ด้านเอริก เฮาเซอร์ นักวิเคราะห์จาก “เครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี” ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ คาดว่า มาตรการปลดคนงานของทางเปอโยต์-ซีตรองจะช่วยลดต้นทุนให้กับบริษัทได้มากถึง 70 ล้านยูโร (ราว 2,790 ล้านบาท) ต่อปี ขณะที่การเปลี่ยนตัวผู้บริหารอาจลดต้นทุนของบริษัทได้เพียงไม่กี่ล้านยูโรเท่านั้น

ทั้งนี้ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้จะส่งผลให้เปอโยต์-ซีตรองเหลือคนงานในแผ่นดินฝรั่งเศสราว 55,900 คนในปี 2014 ขณะที่ยอดหนี้สะสมของบริษัทเมื่อนับถึงสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ราว 3 พันล้านยูโร (ราว 119,550 ล้านบาท)


กำลังโหลดความคิดเห็น