เอเอฟพี - ผู้ประท้วงชาวอียิปต์หลายหมื่นคนรวมตัวปิดล้อมทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงไคโร วานนี้ (4) หลังตำรวจปราบจลาจลไม่อาจสกัดกั้นฝูงชนไว้ด้วยแก๊สน้ำตาได้ ท่ามกลางวิกฤตการเมืองที่ลุกลามหนักหลังจากประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด มอร์ซี ประกาศกฤษฎีกาเพิ่มอำนาจแก่ตนเอง
ชาวอียิปต์ผู้โกรธแค้นพากันฝ่ารั้วลวดหนามเข้าไปภายในทำเนียบประธานาธิบดีที่อยู่ห่างไปไม่กี่ร้อยเมตร ทำให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาเข้าสกัดกั้นทว่าก็ไม่เป็นผล สุดท้ายต้องยอมปล่อยให้ผู้ประท้วงเคลื่อนขบวนเข้าไปจนถึงกำแพงทำเนียบได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ผู้ช่วยคนสนิทของมอร์ซียืนยันว่าประธานาธิบดีไม่ได้อยู่ภายในทำเนียบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอีกรายระบุว่า “ประธานาธิบดีเดินทางออกจากทำเนียบอิติฮาดิยาไปตามหมายกำหนดการ หลังจากประชุมเจ้าหน้าที่เสร็จแล้ว”
คลิปวีดีโอที่เผยแพร่โดยสำนักข่าว Rassd ของอียิปต์ เผยให้เห็นขบวนรถของมอร์ซีเคลื่อนออกจากทำเนียบประธานาธิบดีไป โดยมีตำรวจปราบจลาจลคอยคุ้มกันอย่างแน่นหนา ท่ามกลางเสียงด่าทอจากผู้ประท้วงที่ตะโกนว่า “ขี้ขลาด” และ “ออกไปซะ”
ที่จัตุรัสตะห์รีห์ โฆษกกลุ่ม เนชันแนล เรสคิว ฟอรนท์ ซึ่งเป็นพันธมิตรฝ่ายค้าน ประกาศให้ผู้ร่วมชุมนุมนั่งปิดล้อมทำเนียบประธานาธิบดีต่อไป พร้อมเรียกร้องให้ชาวอียิปต์ทั้งประเทศแสดงพลังต่อต้านในแบบเดียวกัน
ผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสรีนิยมและฝ่ายซ้ายเริ่มแยกย้ายกลับบ้านในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เหลืออีกประมาณ 2 พันคนที่ยังคงตั้งเตนท์ปักหลักอยู่นอกกำแพงทำเนียบ ซึ่งขณะนี้ถูกพ่นสีสเปรย์เป็นภาพกราฟฟิตีต่อต้าน มอร์ซี
การชุมนุมต่อต้านประธานาธิบดียังเกิดขึ้นที่เมืองท่าอเล็กซานเดรียริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และที่จังหวัดโซฮักทางตอนกลางของอียิปต์ ซึ่งเหตุจลาจลที่ขยายลุกลามเป็นวงกว้างทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น
“เราขอให้ผู้ประท้วงแสดงจุดยืนของท่านอย่างสันติ และขอให้รัฐบาลอียิปต์เปิดโอกาสให้พลเมืองได้มีพื้นที่แสดงออกอย่างสันติด้วย” มาร์ก โทเนอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลง
ชาวอียิปต์ออกมาแสดงพลังคัดค้านกฤษฎีกาที่ประกาศเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งนอกจากจะเพิ่มอำนาจแก่ประธานาธิบดีแล้ว ยังเปิดโอกาสให้มอร์ซีนำรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญอิสลามิสต์ แต่ยังถูกต่อต้านจากฝ่ายเสรีนิยม, ฝ่ายซ้าย และชุมชนชาวคริสต์ เข้าสู่กระบวนการทำประชามติในวันที่ 15 ธันวาคมนี้
บัสซาม อาลี โมฮัมเหม็ด อาจารย์ด้านกฎหมายอิสลาม ให้สัมภาษณ์ใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีว่า “อียิปต์เป็นประเทศที่คนต่างศาสนาควรอาศัยอยู่ร่วมกันได้ ผมรักกฎหมายของพระเจ้าและชารีอะห์ (กฎหมายอิสลาม) แต่ผมจะโหวตคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะมันทำให้ประชาชนแตกแยก”