ส.ส.นราธิวาส ประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามไฟใต้ ซัดรัฐนโยบายไม่ชัด จวก รมต.ใหม่ไม่กล้าแก้ ลอยแพคนพื้นที่ “เฉลิม” โบ้ยขนาด ปชป.ยังแก้ไม่ได้พรรคไหนก็เหนื่อย ยันเหตุลด โยนทัพบกจัดการ อ้างนักการเมืองถือเอ็ม 16 เข้าป่าไม่ได้ ยัวะถูกหยันขี้ขลาดตาขาว อ้างไม่มีความรู้จริง โอ่เข้าใจวิถีมุสลิมขนาดสอบกฎหมายรามฯ ยังได้เกรดเอ “วัชระ” โต้รามฯ ไม่มีแจกเอ
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามนายกฯ เรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เข้ามาบริหารราชการ ซึ่งตนมองว่าเป็นเพราะรัฐบาลไม่มีความชัดเจนในเรื่องนโยบายแก้ไขปัญหา โดยการปรับคณะรัฐมนตรีรอบล่าสุดไม่มีใครแสดงเจตจำนงที่จะเข้าไปแก้ปัญหา เสมือนเป็นการลอยแพคนในพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้น ตนขอถามยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาของรัฐบาล รวมถึงการรักษาพื้นที่เศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ ให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างไร
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ชี้แจงแทนนายกฯ โดยยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ แต่หากรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ตนเชื่อว่ารัฐบาลไหนๆ เข้ามาบริหารก็เหนื่อย ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบที่ระบุว่ามีมากขึ้น ข้อเท็จจริงแล้วสถานการณ์รุนแรงลดลง แต่ผู้ก่อเหตุได้เปลี่ยนเป้าหมายจากประชาชน ครู ไปเป็นทหารและตำรวจ สำหรับแนวทาการแก้ไขปัญหาต้องใช้การบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในแนวคิดของตนเห็นว่าเมื่อมอบงานให้กองทัพบกแล้ว ควรให้กองทัพบกจัดการแก้ปัญหา รวมกับหน่วยงานในพื้นที่ทั้งตำรวจ และฝ่ายมั่นคง เนื่องจากเขาทราบปัญหา ส่วนนักการเมืองคงไม่สามารถถือปืนเอ็ม16 เข้าป่าไม่ได้ ส่วนแผนการทำงานเพื่อแก้ปัญหานั้น รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ร่วมกับ ศอ.บต., สภาความมั่นคง และ กอ.รมน. กำหนดแผน 29 ข้อ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปตามลำดับแล้ว
นายเจ๊ะอามิงถามต่อว่า เหตุที่นักการเมืองวางแผนแก้ปัญหาที่ศูนย์ใน กทม. เพราะเขาขี้ขลาดตาขาว ไม่ยอมไปฟังข้อเท็จจริงในพื้นที่ ซึ่งหาก ร.ต.อ.เฉลิมต้องการลงพื้นที่ไม่ต้องบอกทหาร หรือตำรวจ ให้ลงพื้นที่ไปกับตน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขณะนี้พบด้วยว่ามีการอุ้มฆ่าเกิดขึ้น มีบุคคลในพื้นที่สูญหาย ซึ่งไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน รัฐบาลจะมีแนวทางจ่ายเงินชดเชยจำนวน 7.5 ล้านบาทเช่นเดียวกับคนที่ร่วมชุมนุมทางการเมืองหรือไม่
รองนายกฯ ชี้แจงว่า หากมีข้อมูลประเด็นอุ้มฆ่าขอให้นำหลักฐานมาให้ตนเพื่อดำเนินการสืบสวน สอบสวน และแก้ปัญหา
“แต่ที่ว่าผมขี้ขลาดตาขาว ขอให้ไปสอบถามตำรวจกองปราบฯ ว่าผมเป็นคนเช่นนั้นจริงหรือไม่ ผมยอมรับว่าไม่มีความรู้เรื่องพื้นที่ภาคใต้ คงต้องอาศัยสติปัญญาของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ดังนั้นผมขอเชิญไปร่วมประชุมด้วย และหากแก้ไขได้ผมพร้อมประกาศว่าเป็นความสำเร็จของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนประเด็นเรื่องการจ่ายค่าชดเชย ผมขอให้ท่านมาพูดจาปรับทุกข์ ผูกมิตรกับรัฐบาล แต่ขอบอกว่าเงินที่ต้องจ่ายเป็นเงินภาษีของประชาชน คนในพื้นที่ภาคใต้ก็เป็นคนไทย หากจะลงไปในพื้นที่ไม่ต้องใส่กุญแจมือหรอก เดินไปสบายๆ ได้” รองนายกฯ ชี้แจง
ด้านนายเจะอามิงถามในประเด็นสุดท้ายว่าตนพร้อมให้ข้อมูลกับ ร.ต.อ.เฉลิม แต่สิ่งที่อยากเห็นคือการลงไปประชุมใน จ.ปัตตานี จ.ยะลา หรือ จ.นราธิวาส ไม่ใช่ที่กรุงเทพฯ ส่วนการแก้ไขปัญหาที่สำคัญต้องรู้ข้อมูลเรื่องอัตลักษณ์ของคนมุสลิม โดยเฉพาะวิถีชีวิต การนัดประชุมวันศุกร์คงเป็นไปไม่ได้ เพราะพี่น้องมุสลิมต้องปฏิบัติศาสนกิจ และอยากถามแนวทางของรัฐบาลในงานดูแลความปลอดภัยชีวิตครูในพื้นที่ภาคใต้ว่าเป็นอย่างไร
ร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงว่า ตนเข้าใจวิถีชีวิตของคนมุสลิม ถ้าไม่เชื่อไปตรวจสอบได้ที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะตนเลือกเรียนกฎหมายอิสลาม และสอบได้เกรดเอ ส่วนที่นัดประชุมวันศุกร์เพราะเห็นว่าที่อาคารรัฐสภามีห้องทำละหมาด ส่วนประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยครูต้องใช้มาตรการเดิม โดยให้ตำรวจและทหารบูรณาการความคิด ที่ตนเชิญไปคุยที่ สตช.เพราะมีอุปกรณ์สื่อสารที่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ ตนไม่อายที่จะบอกว่าไม่มีความรู้ในเรื่องพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเป็นต้องขอความรู้
ฝ่ายนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ลุกประท้วง ร.ต.อ.เฉลิม ว่า ในฐานะที่ตนเป็นบัณฑิตนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่าวิชาดังกล่าวได้เอ แต่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงไม่มีเกรดเอ มีแค่เกรดพี จี และเอฟ ถ้า รองนายกฯ ระบุว่าได้เกรดเอ อยากให้ชี้แจงด้วยว่าเกรดเอนั้นหมายถึงอะไร หรือเป็นชื่อของหญิงสาว