xs
xsm
sm
md
lg

“เจ้าหญิงเคต” ทรงแพ้ท้องรุนแรง-ประทับโรงพยาบาลเป็นวันที่ 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหญิงแคทเธอรีน ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ ทรงตั้งพระพระครรภ์รัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งอังกฤษแล้ว
เอเจนซีส์ - เจ้าหญิงแคทเธอรีน พระชายาในเจ้าชายวิลเลียมแห่งอังกฤษ ทรงมีอาการแพ้ท้องอย่างหนัก และต้องประทับ ณ โรงพยาบาล คิง เอ็ดเวิร์ด ที่ 7เป็นวันที่สอง หลังจากที่สำนักพระราชวังมีแถลงการณ์เรื่องทรงพระครรภ์ ซึ่งได้สร้างความปลื้มปีติเป็นล้นพ้นต่อพสกนิกรชาวอังกฤษ ขณะที่ผู้นำและประชาชนทั่วโลกที่ทราบข่าวต่างร่วมถวายพระพรแด่ทั้งสองพระองค์ที่จะทรงมีทายาทพระองค์แรก

ทั้งนี้ พระโอรสหรือพระธิดาก็ตาม ของเจ้าหญิงแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ กับเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ ที่จะมีประสูติกาลในไม่ช้านี้ จะทรงมีสถานะเป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 รองจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าชายวิลเลียม

ปีเตอร์ ฮันท์ ผู้สื่อข่าวสายราชสำนักของบีบีซี รายงานว่า ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์อาจได้รับการถวายสารเหลวทางหลอดพระโลหิต (IV fluids) ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง และคาดว่าสูตินรีแพทย์ที่ถวายการดูแลน่าจะเป็น นพ.มาร์คัส เซ็ตเชลล์ ซึ่งเคยทำคลอดพระโอรสและพระธิดาของเจ้าหญิงโซฟี เคาน์เตสส์แห่งเวสเซ็กส์มาแล้ว

แถลงการณ์จากพระราชวังเซนต์เจมส์ เมื่อวานนี้ (3) ระบุว่า พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์รวมถึงครอบครัวมิดเดิลตันต่าง “ปลาบปลื้มยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทราบข่าวนี้”

เจ้าหญิงแคทเธอรีนทรงมีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง (Hyperemesis gravidarum) ทำให้คณะแพทย์ต้องถวายของเหลวและวิตามินบำรุงเพื่อลดการอาเจียนและสูญเสียน้ำ

“เนื่องจากยังทรงพระครรภ์อ่อนๆ เจ้าหญิงแคทเธอรีนจึงอาจต้องประทับในโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายวัน และต้องทรงพักผ่อนอีกชั่วระยะหนึ่งหลังจากนั้น” แถลงการณ์ระบุ

พระราชวังเซนต์เจมส์มิได้ระบุชัดเจนว่า ทั้งสองพระองค์ทรงทราบเรื่องการตั้งครรภ์เมื่อใด โดยแถลงแต่เพียงว่า “เมื่อเร็วๆ นี้” แต่ก็เป็นที่เข้าใจว่าทางพระราชวังต้องออกแถลงการณ์เรื่องนี้ หลังจากที่เจ้าหญิงทรงมีพระอาการประชวรจนต้องเสด็จไปประทับในโรงพยาบาล ซึ่งทำให้พระอาการของพระองค์กลายเป็นเรื่องสาธารณะ
เจ้าชายวิลเลียม เสด็จฯออกจากโรงพยาบาล คิง เอ็ดเวิร์ด ที่ 7 ซึ่งเจ้าหญิงแคทเธอรีนทรงเข้าพักรักษาพระอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง วานนี้(3)
ฮันท์เปิดเผยว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2, เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ต่างก็ทรงทราบข่าวการตั้งพระครรภ์ของดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ในวันเดียวกันนั้น ส่วนเจ้าชายแฮร์รีซึ่งทรงปฏิบัติภารกิจทางทหารอยู่ในอัฟกานิสถาน ได้รับการกราบทูลผ่านอีเมล

ทางด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษเขียนลงในทวิตเตอร์ว่า ตนรู้สึก “ยินดีอย่างยิ่ง และทั้งสองพระองค์จะทรงเป็นพระบิดาและพระมารดาที่วิเศษที่สุดอย่างแน่นอน” ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ และมิเชล โอบามา ภริยา ก็ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีมายังสำนักพระราชวังอังกฤษด้วย เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีจูเลีย กิลลาร์ด ของออสเตรเลีย ซึ่งแถลงว่า ข่าวนี้ “กำลังจะทำให้ทั่วโลกบังเกิดความปีติยินดี” และนายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ แห่งนิวซีแลนด์ ที่ระบุว่า นี่เป็นข่าว “ยอดเยี่ยมจนไม่อยากจะเชื่อ”

มีข่าวลือมาหลายเดือนแล้วว่า ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงพระครรภ์ โดยเฉพาะหลังจากปรากฏภาพที่แสดงให้เห็นพระองค์เสวยน้ำแทนที่จะเป็นไวน์ในงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการหลายต่อหลายครั้ง และหลังจากพระราชวังเซนต์เจมส์ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้แล้ว สื่อของอังกฤษต่างระบุข้อสันนิษฐานเพิ่มเติมว่าเชื่อกันว่าทรงพระครรภ์มายังไม่ถึง 12 สัปดาห์

อย่างไรก็ดี จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ (30 พ.ย.) ที่ผ่านมา เจ้าหญิงแคทเธอรีนยังมิได้ทรงแสดงให้เห็นเลยว่ากำลังประชวร ในเวลาที่ทรงประกอบพระกรณียกิจในที่สาธารณะ โดยในวันนั้นพระองค์ได้เสด็จไปยังโรงเรียนประถมศึกษาที่เคยทรงศึกษา และทรงแสดงให้เห็นทักษะความชำนาญในการเล่นกีฬาฮอกกี้ ขณะที่ทรงฉลองพระบาทบู๊ตส้นสูง และฉลองพระองค์ตาร์ตัน โค้ต ของ อเล็กซานเดอร์ แมคควีน

เกี่ยวกับพระอาการประชวรแบบแพ้ท้องอย่างรุนแรง Hyperemesis gravidarum นี้ ถือเป็นอาการแพ้ท้องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก โดยตามสถิติแล้วจะเกิดขึ้นเพียง 3.5 รายในสตรีตั้งครรภ์ทุกๆ 1,000 ราย

น.พ.ปีเตอร์ โบเวน-ซิมป์คินส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของ ลอนดอน วีเมนส์ คลินิก ให้ความเห็นกับวิทยุบีบีซี 5 ไลฟ์ ว่า อาการเช่นนี้ “บ่อยครั้งมักเกิดขึ้นในกรณีของการตั้งครรภ์แฝด” และกล่าวต่อไปว่า ถึงตอนนี้ดยุคและดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ น่าจะทรงทราบแล้วว่า “ในพระครรภ์เป็นแฝดหรือไม่”

เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2011 ผู้นำกลุ่มประเทศเครือจักรภพเห็นชอบให้มีการแก้ไขกฎมณเฑียรบาล โดยจะอนุญาตให้พระราชธิดาของกษัตริย์อังกฤษในอนาคตมีสิทธิสืบราชสมบัติได้เช่นเดียวกับพระราชโอรส ซึ่งหมายความว่า หากทารกที่ประสูติแต่เจ้าหญิงแคทเธอรีนเป็นพระธิดา ก็จะทรงมีสถานะเป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 ต่อจากเจ้าชายวิลเลียม โดยไม่มีการเลื่อนลำดับสันตติวงศ์ให้พระโอรสที่อาจจะประสูติหลังจากนั้นขึ้นครองราชย์ก่อน

แม้กฎมณเฑียรบาลจะยังไม่ถูกแก้ไข แต่โฆษกคณะรัฐมนตรีอังกฤษยืนยันว่า จะมีการลงมติเห็นชอบอย่างเป็นทางการ “ในอีกไม่ช้านี้” และกฎสืบสันตติวงศ์ใหม่ก็จะใช้เป็นแนวปฏิบัติสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ประสูติหลังจากการเห็นชอบของผู้นำเครือจักรภพในปีที่แล้ว



กำลังโหลดความคิดเห็น