ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -มีผู้กล่าวไว้ว่าความรักนั้นไม่มีข้อจำกัด แม้แต่พรมแดนก็ไม่สามารถขวางกั้น ความรักเกิดขึ้นได้กับคนที่แม้จะต่างเชื้อชาติ ศาสนา หรือกระทั่งต่างฐานันดรศักดิ์ ในที่นี้จึงขอยกตัวอย่างเชื้อพระวงศ์ต่างแดน ที่ทรงยึดมั่นในความรัก โดยไม่คำนึงถึงสถานะทางสังคม แม้คนรักของพระองค์จะเป็นเพียงคนธรรมดา ที่มิได้มีสายเลือดอันสูงส่ง หรือกระทั่งต้องเสียสละสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างราชบัลลังก์ก็ยอม เพื่อแลกกับการได้อยู่เคียงคู่กับคนที่ตนรัก กลายเป็นตำนานรักที่น่าจดจำ
1.กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 8 และวอลลิส ซิมป์สัน
พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 แห่งอังกฤษทรงสละพระราชสมบัติ ในปี 1936 เพื่ออภิเษกสมรสกับหญิงสามัญชนชาวอเมริกัน ซ้ำยังเป็นม่ายที่หย่าขาดกับสามีมาแล้วถึง 2 ครั้ง ขณะที่ประชาชนไม่สามารถยอมรับเธอในฐานะองค์ราชินีได้ แต่พระองค์ก็ทรงเลือกวอลลิส เพราะไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากหญิงที่พระองค์รัก
2.เจ้าหญิงซายาโกะ และโยชิกิ คุโรดะ
พระธิดาเพียงพระองค์เดียวของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะแห่งญี่ปุ่นทรงสละฐานันดรศักดิ์ อภิสิทธิ์ต่างๆ รวมทั้งสิทธิ์ในการสืบทอดราชบัลลังก์ เมื่อพระองค์ทรงแต่งงานกับนักวางผังเมือง วัย 39 ปี ซึ่งเป็นพระสหายตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ในปี 2005 เนื่องจากกฏมณเฑียรบาลอันเคร่งครัดของราชวงศ์ดอกเบญจมาศนั้นไม่อนุญาตให้เชื้อพระวงศ์หญิงแต่งงานกับสามัญชนขณะยังทรงพระยศได้
3.เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และไดอานา สเปนเซอร์
ความรักระหว่างเจ้าชายแห่งเวลส์ และอดีตพี่เลี้ยงเด็กคู่นี้เป็นที่จดจำถึงการแต่งงานระหว่างเชื้อพระวงศ์ และสามัญชน สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ เมื่อทั้งโลกเฝ้าจับตาชื่นชมพระราชพิธีเสกสมรสอันยิ่งใหญ่ของเจ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าสาวขี้อาย วัย 20 ปี ณ วิหารเซนต์ปอล เมื่อปี 1981
4.เจ้าชายเฟเดอริก และแมรี โดนัลด์สัน
มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กทรงเข้าพิธีเสกสมรสกับสาวนายหน้าค้าที่ดินชาวออสเตรเลีย เมื่อปี 2003 หลังจากพบกันในบาร์แห่งหนึ่ง ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2000 โดยองค์ชายรัชทายาทแห่งแดนโคนมทรงแนะนำพระองค์ในฐานะ “เฟรด” หนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง และได้สานสัมพันธ์รักกันต่อมา
5.เจ้าชายเฟลิเป และเลติเซีย ออร์ติซ โรคาโซลาโน
นักข่าวโทรทัศน์สาวได้พบกับว่าที่สามีในอนาคต ระหว่างการติดตามทำข่าวเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลเขตเมืองกาลิเชียในปี 2002 หลังจากนั้น 1 ปี สำนักพระราชวังสเปนก็ประกาศงานหมั้น ทำให้ออร์ติซกลายเป็นสามัญชนคนแรกในประวัติศาสตร์แดนกระทิงดุ ที่กลายเป็นว่าที่พระราชินีของประเทศ โดยทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงานกันในปี 2004
6.เจ้าชายโยฮัน ฟรีโซแห่งราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซา และมาเบล วิสส์ สมิต
เจ้าชายดัตช์พระองค์นี้ทรงยอมละทิ้งตำแหน่งการเป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งราชบัลลังก์เนเธอร์แลนด์ หลังเสกสมรสกกับนักศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ และรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม โดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา และถึงแม้ว่าพระองค์ต้องสูญเสียสถานะความเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่ทั้งคู่ก็แต่งงานกันอย่างมีความสุขในปี 2004
7.เจ้าชายเรนิเยร์ที่ 3 และเกรซ เคลลี
ตำนานรักดุจเทพนิยายของดารานักแสดงสาวชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียง ที่เข้าพิธีแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่กับเจ้าชายองค์อธิปัตย์แห่งโมนาโก ในปี 1956 ต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติร่วม 600 คน และผู้ชมทางโทรทัศน์กว่า 30 ล้านคน โดยทั้งคู่พบรักกันในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส
8.เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 และชาร์ลีน วิตต์สต็อก
อดีตนักกีฬาว่ายน้ำโอลิมปิกชาวแอฟริกาใต้พบรักกับเจ้าชาย ซึ่งมีพระชันษามากกว่าเธอถึง 20 ปี ในระหว่างการแข่งขันว่ายน้ำเมื่อปี 2000 วิตต์สต็อกเป็นผู้ยุติชีวิตโสดขององค์ประมุขแห่งโมนาโก เมื่อทั้งคู่ประกาศหมั้นกันในปี 2010 และแม้จะมีข่าวลือว่าวิตต์สต็อกเป็นเจ้าสาวกลัวฝน แต่ทั้งคู่ก็เข้าพิธีมงคลกันในเดือนกรกฎาคม ปี 2011 จนได้
9.เจ้าชายวิลเลียม และแคเธอรีน มิดเดิลตัน
เคต และดยุคแห่งเคมบริดจ์ ผู้เป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งราชบัลลังก์อังกฤษพบรักกันในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ศิลปะ ณ มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ ในสกอตแลนด์ และคบหาดูใจกันยาวนานถึง 8 ปีก่อนที่เข้าพิธีเสกสมรสในปี 2011 อันตระการตา มีผู้ชมจากทั่วโลกถึง 2 พันล้านคน ซึ่งหลายคนมองว่านี่เป็นตำนานรักเทพนิยายในยุคปัจจุบันทีเดียว
10.พระราชาธิบดีจิกมี วังชุก และเจ็ตซัน เปมา
สาวหลายคน รวมถึงสาวไทยต้องอกหักกันเป็นแถว เมื่อกษัตริย์หนุ่มแห่งภูฏานทรงประกาศหมั้นกับคนรักของพระองค์ที่ดูใจกันมา 3 ปี และแม้ว่าเธอจะเป็นเพียงสามัญชน แต่พิธีอภิเษกสมรสก็จัดขึ้นอย่างโอ่อ่าฟู่ฟ่าสมพระเกียรติ แม้ว่ายังไม่ปรากฏชัดว่าทั้งคู่พบกันครั้งแรกได้อย่างไร แต่เชื่อกันว่าพระราชาแห่งดินแดนมังกรสายฟ้าทรงรู้จักกับว่าที่พระราชินีของพระองค์ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กสาว
1.กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 8 และวอลลิส ซิมป์สัน
พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 แห่งอังกฤษทรงสละพระราชสมบัติ ในปี 1936 เพื่ออภิเษกสมรสกับหญิงสามัญชนชาวอเมริกัน ซ้ำยังเป็นม่ายที่หย่าขาดกับสามีมาแล้วถึง 2 ครั้ง ขณะที่ประชาชนไม่สามารถยอมรับเธอในฐานะองค์ราชินีได้ แต่พระองค์ก็ทรงเลือกวอลลิส เพราะไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากหญิงที่พระองค์รัก
2.เจ้าหญิงซายาโกะ และโยชิกิ คุโรดะ
พระธิดาเพียงพระองค์เดียวของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะแห่งญี่ปุ่นทรงสละฐานันดรศักดิ์ อภิสิทธิ์ต่างๆ รวมทั้งสิทธิ์ในการสืบทอดราชบัลลังก์ เมื่อพระองค์ทรงแต่งงานกับนักวางผังเมือง วัย 39 ปี ซึ่งเป็นพระสหายตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ในปี 2005 เนื่องจากกฏมณเฑียรบาลอันเคร่งครัดของราชวงศ์ดอกเบญจมาศนั้นไม่อนุญาตให้เชื้อพระวงศ์หญิงแต่งงานกับสามัญชนขณะยังทรงพระยศได้
3.เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และไดอานา สเปนเซอร์
ความรักระหว่างเจ้าชายแห่งเวลส์ และอดีตพี่เลี้ยงเด็กคู่นี้เป็นที่จดจำถึงการแต่งงานระหว่างเชื้อพระวงศ์ และสามัญชน สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ เมื่อทั้งโลกเฝ้าจับตาชื่นชมพระราชพิธีเสกสมรสอันยิ่งใหญ่ของเจ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าสาวขี้อาย วัย 20 ปี ณ วิหารเซนต์ปอล เมื่อปี 1981
4.เจ้าชายเฟเดอริก และแมรี โดนัลด์สัน
มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กทรงเข้าพิธีเสกสมรสกับสาวนายหน้าค้าที่ดินชาวออสเตรเลีย เมื่อปี 2003 หลังจากพบกันในบาร์แห่งหนึ่ง ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2000 โดยองค์ชายรัชทายาทแห่งแดนโคนมทรงแนะนำพระองค์ในฐานะ “เฟรด” หนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง และได้สานสัมพันธ์รักกันต่อมา
5.เจ้าชายเฟลิเป และเลติเซีย ออร์ติซ โรคาโซลาโน
นักข่าวโทรทัศน์สาวได้พบกับว่าที่สามีในอนาคต ระหว่างการติดตามทำข่าวเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลเขตเมืองกาลิเชียในปี 2002 หลังจากนั้น 1 ปี สำนักพระราชวังสเปนก็ประกาศงานหมั้น ทำให้ออร์ติซกลายเป็นสามัญชนคนแรกในประวัติศาสตร์แดนกระทิงดุ ที่กลายเป็นว่าที่พระราชินีของประเทศ โดยทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงานกันในปี 2004
6.เจ้าชายโยฮัน ฟรีโซแห่งราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซา และมาเบล วิสส์ สมิต
เจ้าชายดัตช์พระองค์นี้ทรงยอมละทิ้งตำแหน่งการเป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งราชบัลลังก์เนเธอร์แลนด์ หลังเสกสมรสกกับนักศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ และรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม โดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา และถึงแม้ว่าพระองค์ต้องสูญเสียสถานะความเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่ทั้งคู่ก็แต่งงานกันอย่างมีความสุขในปี 2004
7.เจ้าชายเรนิเยร์ที่ 3 และเกรซ เคลลี
ตำนานรักดุจเทพนิยายของดารานักแสดงสาวชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียง ที่เข้าพิธีแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่กับเจ้าชายองค์อธิปัตย์แห่งโมนาโก ในปี 1956 ต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติร่วม 600 คน และผู้ชมทางโทรทัศน์กว่า 30 ล้านคน โดยทั้งคู่พบรักกันในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส
8.เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 และชาร์ลีน วิตต์สต็อก
อดีตนักกีฬาว่ายน้ำโอลิมปิกชาวแอฟริกาใต้พบรักกับเจ้าชาย ซึ่งมีพระชันษามากกว่าเธอถึง 20 ปี ในระหว่างการแข่งขันว่ายน้ำเมื่อปี 2000 วิตต์สต็อกเป็นผู้ยุติชีวิตโสดขององค์ประมุขแห่งโมนาโก เมื่อทั้งคู่ประกาศหมั้นกันในปี 2010 และแม้จะมีข่าวลือว่าวิตต์สต็อกเป็นเจ้าสาวกลัวฝน แต่ทั้งคู่ก็เข้าพิธีมงคลกันในเดือนกรกฎาคม ปี 2011 จนได้
9.เจ้าชายวิลเลียม และแคเธอรีน มิดเดิลตัน
เคต และดยุคแห่งเคมบริดจ์ ผู้เป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งราชบัลลังก์อังกฤษพบรักกันในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ศิลปะ ณ มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ ในสกอตแลนด์ และคบหาดูใจกันยาวนานถึง 8 ปีก่อนที่เข้าพิธีเสกสมรสในปี 2011 อันตระการตา มีผู้ชมจากทั่วโลกถึง 2 พันล้านคน ซึ่งหลายคนมองว่านี่เป็นตำนานรักเทพนิยายในยุคปัจจุบันทีเดียว
10.พระราชาธิบดีจิกมี วังชุก และเจ็ตซัน เปมา
สาวหลายคน รวมถึงสาวไทยต้องอกหักกันเป็นแถว เมื่อกษัตริย์หนุ่มแห่งภูฏานทรงประกาศหมั้นกับคนรักของพระองค์ที่ดูใจกันมา 3 ปี และแม้ว่าเธอจะเป็นเพียงสามัญชน แต่พิธีอภิเษกสมรสก็จัดขึ้นอย่างโอ่อ่าฟู่ฟ่าสมพระเกียรติ แม้ว่ายังไม่ปรากฏชัดว่าทั้งคู่พบกันครั้งแรกได้อย่างไร แต่เชื่อกันว่าพระราชาแห่งดินแดนมังกรสายฟ้าทรงรู้จักกับว่าที่พระราชินีของพระองค์ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กสาว