เอเอฟพี - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีทวานนี้(29) ขยับขึ้น หลังสหรัฐฯปรับเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 3 ท่ามกลางการเจรจาลดหนี้เพื่อหลีกเลี่ยง "วิกฤตหน้าผาการคลัง" ขณะที่ทองคำ ก็บวก จากการช้อนซื้อของนักลงทุน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 88.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาหลีกเลี่ยงวิกฤตหน้าผาการคลังที่ยังจนตรอกของสภาคองเกรส ด้วยพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ยังมีความเห็นต่างด้านการขึ้นภาษีและตัดลดค่าใช้จ่ายๆ ก่อเค้ารางแห่งความเป็นไปได้ในการตัดรายจ่ายและขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติในช่วงสิ้นปี ซึ่งเหล่านักเศรษฐศาสตร์เตือนว่ามันอาจฉุดเศรษฐกิจของอเมริกากลับสู่ภาวะถดถอย
อย่างไรก็ตามข้อวิตกดังกล่าวถูกปัดเป่าหายไป หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาส 3 จากเดิมร้อยละ 2.0 เป็นร้อยละ 2.7 แม้รายละเอียดบางอย่างมีข้อมูลที่น่ากังวลด้านการใช้จ่ายผู้บริโภคซ่อนอยู่ด้วยก็ตาม
ปัจจัยนี้ช่วยส่งให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้(29) ปิดในแดนบวกได้แค่พอประมาณ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนมองไปที่อัตราคนว่างงานที่ยังสูงอยู่
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 38.17 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,023.28 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 20.10 จุด (0.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,011.88 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.13 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,416.06 จุด
"ตัวเลขดังกล่าวส่งสารว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโต แต่อัตราของมันยังต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และยากที่จะกลบมลทินเกี่ยวกับอัตราคนว่างงานได้" ปาทริค โอแฮร์ นักวิเคราะห์จากบรีฟดอทคอมระบุ
ด้านราคาทองคำวานนี้(29) ปิดบวกพอประมาณ เหตุนักลงทุนแห่ช้อนซื้อ หลังจากดิ่งลงแรงกว่า 25 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ(28) โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 8.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,727.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์