เอเอฟพี/เดอะสตรีท - ราคาน้ำมันดิบขยับลงพอประมาณ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบวานนี้ (12) นักลงทุนยังกังวลต่อวิกฤตหน้าผาการคลังในสหรัฐฯ และรอการตัดสินใจของอียูเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้งวดใหม่แก่กรีซ ขณะที่ทองคำทรงตัวท่ามกลางดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 50 เซ็นต์ ปิดที่ 85.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 33 เซ็นต์ ปิดที่ 109.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สภาคองเกรสยังคงแตกแยกตามหลังผลเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยเดโมแครตครองวุฒิสภา ส่วนรีพับลิกัน กุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ย้ำให้เห็นถึงอุปสรรคต่อการเจรจาประนีประนอมเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดรายจ่ายและขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติในช่วงสิ้นปีหรือที่เรียกกันว่า หน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ซึ่งคาดหมายว่าหากวิกฤตหน้าผาการคลังนี้ไม่สามารถคลี่คลายได้ทันเวลา ก็มีโอกาสที่สหรัฐฯอาจดิ่งสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
ประเด็นเกี่ยวกับกรีซก็อยู่ในความกังวลของตลาดเช่นกัน โดยเวลานี้เหล่ารัฐมนตรีคลังยุโรปกำลังถกเถียงกันว่าเอเธนส์ ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยเจ้าหนี้นานาชาติพอที่จะรับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้หรือไม่
ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากข่าวภาวะเศรษฐกิจหดตัวไตรมาส 3 ของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามการปรับลงของตลาด ถูกจำกัดวงไว้โดยหลักฐานที่บ่งชี้ว่ายังคงมีอุปสงค์ทางพลังงานอันแข็งแกร่งในจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลก
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (12) ปิดทรงตัว หลังความกังวลต่อวิกฤตหน้าผ้าการคลังในอเมริกา ได้รับการบรรเทาด้วยข้อมูลการค้าที่สดใสของจีน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 2.00 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,817.39 จุด แนสแดค ลดลง 0.62 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,904.25 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.17 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,380.02 จุด
ด้านราคาทองคำวานนี้ (12) ทรงตัว แม้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดที่ 1,730.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดของเมื่อวันศุกร์ (9)