เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผลการลงประชามติล่าสุดในเปอร์โตริโกชี้ชัด ประชาชนส่วนใหญ่บนหมู่เกาะกลางทะเลแคริบเบียนซึ่งเป็นดินแดนในปกครองของสหรัฐฯแห่งนี้ ต้องการเห็นเปอร์โตริโกเปลี่ยนสถานะเป็น “มลรัฐแห่งใหม่” ของเมืองลุงแซม
ผลการลงประชามติเกี่ยวกับอนาคตของเปอร์โตริโกซึ่งมีขึ้นเมื่อวันพุธ (7) ตามเวลาในประเทศไทย ระบุว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวเปอร์โตริโกจำนวน 934,238 คนหรือคิดเป็น 53.99 เปอร์เซ็นต์ แสดงความไม่เห็นด้วยที่เปอร์โตริโกจะยังคงไว้ซึ่งสถานะของการเป็นดินแดนในปกครองของสหรัฐฯ(ที่มิได้เป็นมลรัฐ)ตามเดิมต่อไป ขณะที่อีก 796,007 คน หรือ 46.01 เปอร์เซ็นต์ยังคงพึงพอใจกับการที่เปอร์โตริโกเป็น “ดินแดนชั้น 2”ของสหรัฐฯ
ในส่วนที่ 2 ของการลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ระบุ ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวเปอร์โตริโก 802,179 คนหรือ 61.15 เปอร์เซ็นต์ต้องการให้เปอร์โตริโก กลายเป็นมลรัฐของสหรัฐฯอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีเพียง 72,551 คนหรือ 5.53 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีจุดยืนต้องการเห็นดินแดนของตนกลายเป็นประเทศเอกราช ขณะที่อีก 33.31 เปอร์เซ็นต์ หรือ 436,997 คนระบุ ต้องการให้เปอร์โตริโกเป็นดินแดนของสหรัฐฯ แต่มีอธิปไตยบางส่วนเป็นของตัวเอง
อย่างไรก็ดี กระบวนการยกระดับเปอร์โตริโกให้เป็นมลรัฐแห่งใหม่ของสหรัฐฯ ยังคงต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องมีการเสนอเป็นร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาคองเกรสสหรัฐฯ เช่นเดียวกับร่างกฎหมายอื่นๆของสหรัฐฯ และต้องผ่านความเห็นชอบของทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาสหรัฐฯ เสียก่อน จากนั้น ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะต้องลงนามรับรองเพื่อให้มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครตเคยประกาศจะเคารพและให้การสนับสนุนต่อความต้องการของชาวเปอร์โตริโก หากเสียงส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าต้องการยกสถานะจากการเป็นดินแดนชั้น 2 ไปสู่การเป็นมลรัฐของอเมริกาในอนาคต