รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - พายุเขตร้อน “เอร์เนสโต” ในทะเลแคริบเบียนอาจทวีกำลังแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนภายใน 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า ขณะที่มันเคลื่อนตัวผ่านจาเมกา มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกสู่หมู่เกาะเคย์แมน และคาบสมุทรยูกาตันของเม็กซิโก ขณะเดียวกันพบพายุลูกใหม่ชื่อ “ฟลอเรนซ์” ก่อตัวขึ้นกลางมหาสมุทรแอตแลนติก
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐฯ ในเมืองไมอามี มลรัฐฟลอริดา วันนี้ (5) ระบุว่า พายุเอร์เนสโตซึ่งพัดผ่านจาเมกาในทะเลแคริบเบียน ยังคงเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปทางตะวันตก สู่หมู่เกาะเคย์แมนของอังกฤษ และคาบสมุทรยูกาตันของเม็กซิโก โดยเป็นที่คาดกันว่าพายุลูกนี้จะทวีกำลังแรงขึ้นอย่างช้าๆ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมงข้างหน้าจนอาจกลายเป็นพายุเฮอริเคนที่มีความเร็วลมที่ศูนย์กลางอย่างน้อย 119 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าหากพายุลูกดังกล่าวกลายเป็นเฮอริเคนในอีก 2 วันข้างหน้า จะส่งผลกระทบต่อการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติบริเวณอ่าวเม็กซิโกมากน้อยเพียงใด
พายุเอร์เนสโตซึ่งก่อตัวขึ้นทางตะวันออกของทะเลแคริบเบียนตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน ได้สร้างความเสียหายแก่หลายประเทศในแถบนี้ซึ่งส่วนใหญ่มีสภาพทางภูมิศาสตร์เป็นหมู่เกาะ ไม่ว่าจะเป็นเซนต์ ลูเชีย, อรูบา, คูราเซา, โบแนร์, สาธารณรัฐโดมินิกัน, เฮติ, เปอร์โตริโก และจาเมกา ตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยว่า พบการก่อตัวของพายุเขตร้อนอีกลูกหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า “ฟลอเรนซ์” เมื่อวันเสาร์ (4) ทางด้านตะวันออกของมหาสมุทรแอตแลนติก และพายุลูกนี้ซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางอยู่ที่ราว 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าทางตะวันตก โดยล่าสุดอยุ่ห่างจากหมู่เกาะเคปเวิร์ดราว 960 กิโลเมตร ถือเป็นพายุลูกที่ 6 ในปีนี้ที่เกิดขึ้นในฤดูเฮอริเคนประจำปีของทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ 1 มิถุนายน-30 พฤศจิกายน