เอเอฟพี/เดอะสตรีท - ตลาดหุ้นสหรัฐฯทรุดหนักและทองคำขยับลงวานนี้(7) หลังชัยชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของบารัค โอบามา ก่อความกังวลต่อวิกฤต "หน้าผาการคลัง" ขณะที่ปัจจัยดังกล่าวประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจอันอ่อนเปลี้ยของยุโรป ก็ฉุดให้น้ำมันดิ่งเหวกว่า 4 ดอลลาร์
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 312.95 จุด (2.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,932.73 จุด ทรุดลงต่ำกว่า 13,000 จุด เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม แนสแดค ลดลง74.64 จุด (2.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,937.28 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 33.86 จุด (2.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,394.53 จุด
"แม้การได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งอีกครั้งของประธานาธิบดีโอบามา จะขจัดความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ บางอย่างออกไปได้ แต่ตลาดหุ้นยังเทขายออกมา" เหล่านักวิเคราะห์จากชาร์ลส์ ชวาบ แอนด์ โค กล่าว "ที่เป็นเช่นนั้นเพราะนักลงทุนหันเหความสนใจสู่เค้ารางของการตัดรายจ่ายและขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติหรือที่เรียกกันว่า หน้าผาการคลัง (fiscal cliff) เนื่องจากยังคงมีความแตกแยกในสภาคองเกส"
ปัจจัยข้างต้นก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันวานนี้(7) ขยับลงกว่า 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากยิ่งซ้ำเติมความกังวลของนักลงทุนที่กำลังวิตกเกี่ยวกับเค้ารางทางเศรษฐกิจของอียูที่ดูจะไม่สดใสนัก
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 4.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 4.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากความกังวลต่อภาวะหน้าผาการคลัง ตามหลังโอบามา ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 4 ปีแล้ว ปัจจัยหลักที่ฉุดตลาดวานนี้(7) เป็นผลมาจากความเห็นที่ส่งสัญญาณแสดงความกังวลต่อเศรษฐกิจยูโรโซนที่ออกมาจากปากของประธานธนาคารนกลางยุโรปเอง
ด้านทองคำวานนี้(7)ขยับลงเล็กน้อย จากเค้ารางความแตกแยกที่ยังคงอยู่ในรัฐสภาสหรัฐฯ ตามหลังโอบามา ได้รับเลือกอีกสมัย โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,711.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์