เอเอฟพี - โตโยต้าเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรตลอดทั้งปีขึ้นเป็น 780,000 ล้านเยน หรือราว 9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ประกาศว่าอาจขายรถยนต์น้อยลง เนื่องจากความอ่อนแอของตลาดยุโรป และจีน รวมถึงปัญหาความขัดแย้งแย่งชิงดินแดนระหว่างปักกิ่งและโตเกียว
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นยังระบุว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานในปีงบประมาณนี้ ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคม ยังอาจเพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านล้านเยน เป็น 1.05 ล้านล้านเยน ขณะที่ยอดขายอาจตกลงเหลือ 21.3 ล้านล้านเยน จาก 22 ล้านล้าน ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
โตโยต้าชี้แจงว่า แนวโน้มเงินเยนแข็งค่า และยอดขายตกลงในอนาคตยังคงเป็นส่วนสำคัญ แต่คาดการณ์รายได้ที่เพิ่มมากขึ้นนั้นส่วนใหญ่เนื่องมาจากสิ่งที่ทางบริษัทระบุว่าเป็น "กิจกรรมเพิ่มผลกำไร"
ส่วนกำไรสุทธิในครึ่งแรกของปีงบประมาณนี้ก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่า ที่ 5.48 แสนล้านเยน จากยอดขาย 10.91 ล้านล้านเยน หรือสูงกว่าปีก่อนหน้าที่บริษัทต้องประสบปัญหาหลังเผชิญมหาภัยพิบัติแผ่นดินไหว และสึนามิถึง 36%
"เราพบจำนวนการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในทุกภูมิภาค เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งเราประสบปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนและอะไหล่ เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่น" โตโยต้าแถลง
อย่างไรก็ตาม โตโยต้า ซึ่งแซงหน้าคู่แข่งอย่าง เจเนอรัลมอเตอร์ และโฟล์กวาเกน ขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก ในครึ่งปีแรกของปี 2012 ยังคาดว่าจะขายรถยนต์ 8.75 ล้านคันทั่วโลกในปีงบประมาณนี้ โดยตกลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 8.8 ล้านคัน
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์แดนปลาดิบแห่งนี้ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงตัวเลขคาดการณ์นั้นมีสาเหตุจากความไม่แน่นอนในสภาพแวดล้อมของตลาดรถยนต์ในจีน และยุโรป
ในวันนี้ (5) โตโยต้ายังประกาศว่าจะขายรถยนต์ในจีนลดลง 200,000 คัน ในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ ซึ่งจะกระทบต่อผลกำไรหรือขาดทุนของบริษัท 30,000 ล้านเยน จากดีมานด์ที่ลดลงในประเทศซึ่งเป็นตลาดรถยนต์รายใหญ่สุดของโลกอย่างแดนมังกร
ญี่ปุ่นประกาศให้หมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกดังกล่าวเป็นสมบัติของชาติในกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้ความขัดแย้งทางการทูตปะทุรุนแรงขึ้น โดยเกิดกระแสการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ทั่วแดนมังกร และมีการบอยคอตสินค้าจากแดนปลาดิบอย่างไม่เป็นทางการด้วย