เอเอฟพี - พลเมืองสเปน 1 ใน 4 ของประเทศอยู่ในสภาพตกงานในไตรมาสที่สามของปีนี้ ซึ่งเป็นอัตราว่างงานที่สูงเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าปีหน้ายังจะมีการปลดพนักงานอีกจำนวนมาก ตามแผนรัดเข็มขัด 60,000 ล้านยูโรที่เริ่มมีผลบังคับใช้
ตัวเลขล่าสุดนี้ถูกประกาศออกมา หลังจากสหภาพแรงงานสเปนนัดชุมนุมประท้วงใหญ่ในวันที่ 14 พฤศจิกายนเพื่อต่อต้านมาตรการลดรายจ่ายของรัฐบาลที่หลายคนเชื่อว่าไม่ได้ช่วยแก้วิกฤตเศรษฐกิจ แต่กลับทำให้คนตกงานมากขึ้น
ข้อมูลจากสถาบันสถิติแห่งชาติระบุว่า ประชากรว่างงานเพิ่มจาก 24.6% ในไตรมาสที่สอง มาอยู่ที่ 25% หรือราว 5.8 ล้านคนในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนที่ผ่านมา สูงที่สุดนับตั้งแต่การล่มสลายของรัฐบาลเผด็จการ ฟรานซิสโก ฟรังโก เมื่อปลายทศวรรษที่ 1970
อัตราคนว่างงานของสเปนยังเป็นรองก็เพียงกรีซเท่านั้น ซึ่งทำให้รัฐบาลมาดริดถูกกดดันให้ต้องใช้แผนรัดเข็มขัดอย่างเข้มงวด เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของสหภาพยุโรป ขณะที่เศรษฐกิจก็ยังมีแนวโน้มถดถอยต่อเนื่อง
สเปนยังต้องการเม็ดเงินมหาศาลสำหรับรายจ่ายในปีนี้ และถือเป็นโชคดีที่ธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี) สัญญาจะรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลสเปนหากถูกร้องขอ ซึ่งส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินกู้ของสเปนลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายลดยอดขาดดุลงบประมาณลงให้ได้ 60,000 ล้านยูโรภายในปี 2014 ส่อเค้าจะทำให้เศรษฐกิจสเปนดิ่งเหวยิ่งกว่าเดิม และชาวเมืองกระทิงก็มีแนวโน้มถูกลอยแพมากขึ้น
รัฐบาลสเปนคาดว่า เศรษฐกิจจะหดตัวอีกราว 0.5% ในปีหน้า ขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์สัปดาห์นี้คาดว่า เศรษฐกิจสเปนจะหดตัวลงยิ่งกว่านั้นถึง 3 เท่า
สเปนเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยตั้งแต่ปลายปี 2011 ขณะที่รัฐบาลและธนาคารใหญ่ที่สุดในกลุ่มยูโรโซน ซานแทนเดอร์ ก็ออกมาพยากรณ์ว่า สภาพการณ์เช่นนี้จะคงอยู่ไม่เกินปี 2013
