เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเผย วันนี้ (25) อุรังอุตังเพศเมียตัวหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บนเกาะบอร์เนียว รอดชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งที่ถูกยิงด้วยปืนอัดลมมากกว่า 100 นัด
วานรตัวดังกล่าว ซึ่งนักอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ตั้งชื่อให้ว่า อาน ต้องตาบอดไปข้างหนึ่ง และได้รับบาดเจ็บสาหัสทั่วตัว หลังถูกกระหน่ำยิงด้วยปืนอัดลม โดยมีกระสุนฝังอยู่ที่หัว 37 นัด และตามตัวอีก 67 นัด
บรรดานักอนุรักษ์เกรงว่า เจ้าอานอาจไม่รอดชีวิต แต่เจ้าหน้าที่เชื่อมั่นว่า เธอสามารถโกงความตายมาได้แล้ว
"เธอกำลังต่อสู้อย่างหนัก เธอได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แต่เธอก็เริ่มกิน เราจึงมีความหวัง" ฮาร์โตโน หัวหน้าสำนักงานอนุรักษ์ธรรมชาติของรัฐบาลท้องถิ่นบนเกาะบอร์เนียวกล่าว โดยเสริมถึงความกังวลของเขาว่า อุรังอุตังตัวนี้อาจต้องตาบอดอีกข้าง รวมถึงประสาทการได้ยินก็อาจได้รับผลกระทบด้วย
ฮาร์โตโนระบุว่า "เราสามารถปล่อยเธอไปได้ แต่เราก็กังวลถึงโอกาสในการรอดชีวิตของเธอ ทั้งที่ไม่สามารถมองเห็น และได้ยินไม่ชัดได้"
ทางสำนักงานอนุรักษ์เผยว่า พวกเขาไม่รู้ตัวผู้กระทำการอันป่าเถื่อนกับสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ตัวนี้ แต่ในปีที่ผ่านมา เหตุยิงอุรังอุตังในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นหลายครั้งตามเรือกสวนไร่นาต่างๆ ในรูปของการกำจัดสัตว์ที่ทำลายพืชผล
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดูแลป่าบอร์เนียวได้ช่วยชีวิตเจ้าอานไว้ได้ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม หลังพบเธอในสภาพปางตาย ณ สวนปาล์มแห่งหนึ่งของจังหวัดกาลิมันตัน และนำกระสุนปืนลมทั้งหมด 104 นัดออกจากตัวของเธอ ด้วยความช่วยเหลือของมูลนิธิอุรังอุตังจากอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม มูลนิธิดังกล่าวกังวลว่า เจ้าอานอาจล้มตายจากการติดเชื้อ อันมีสาเหตุมาจากบาดแผลฉกรรจ์ที่หัว เช่นเดียวกับบริเวณใกล้หัวใจ ปอด และลูกตา
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า มีอุรังอุตังเหลืออยู่ในป่าตามธรรมชาติอยู่ 2 ชนิด ราว 50,000-60,000 ตัว โดย 80% มีชีวิตอยู่ในอินโดนีเซีย ส่วนที่เหลืออยู่ในมาเลเซีย และสาเหตุที่ทำให้พวกมันใกล้สูญพันธุ์ก็คือการทำลายป่าที่อยู่อาศัย เพื่อไปทำสวนปาล์มน้ำมัน
