รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทำเนียบขาวออกแถลงเมื่อวันเสาร์ (20) ปฏิเสธรายงานของหนังสือพิมพ์ชื่อดังนิวยอร์ก ไทม์ส ที่ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้แอบเปิดการเจรจาลับกับอิหร่าน และทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงกันเกี่ยวกับการเตรียมเปิดเจรจาแบบ “ทวิภาคี” ต่อกันเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับปัญหาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน รวมถึงการทำงานร่วมกันชาติมหาอำนาจต่างๆ เพื่อยุติข้อพิพาทดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ นิวยอร์กไทม์ส รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลโอบามา ว่า เมื่อวันเสาร์ (20) ผู้แทนของทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่จะจัดให้มีการเจรจาทวิภาคีระหว่างกัน แต่ทางอิหร่านได้ตั้งเงื่อนไขว่า พวกเขาขอตัดสินใจเรื่องการเปิดการเจรจาดังกล่าวหลังวันที่ 6 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องจากต้องการทราบว่า ผู้ที่จะมาเจรจากับอิหร่านจะเป็นประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งพรรคเดโมแครตหรือมิตต์ รอมนีย์จากพรรครีพับลิกัน
ล่าสุด ทาง ทอมมี วีเทอร์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสซี) รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว โดยยืนยันข่าวการเปิดเจรจาแบบทวิภาคีกับอิหร่านหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พร้อมยืนยัน รัฐบาลสหรัฐฯจะยังคงยึดมั่นในกรอบการแก้ปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านแบบพหุภาคี “P5+1” ที่มีสมาชิกถาวร 5 ชาติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คือ สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีนบวกกับเยอรมนีต่อไป รวมถึงจะยังคงรักษาจุดยืนที่ว่าอิหร่านต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองต่อไปเช่นกัน
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐฯ และชาติตะวันตก ต่างกล่าวหาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ แม้ทางรัฐบาลเตหะราน จะยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีจุดประสงค์ในด้านการพัฒนานิวเคลียร์เชิงสันติเท่านั้น