เอเอฟพี/เอเจนซี- ชาวกัมพูชาเรือนแสนแห่แหนรอรับเสด็จพระศพสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ที่อัญเชิญกลับจากจีนคืนสู่มาตุภูมิในวันพุธ (17) เพื่อแสดงความเคารพและถวายอาลัยรักครั้งสุดท้ายแด่อดีตกษัตริย์ซึ่งทรงอยู่เคียงคู่ความเปลี่ยนแปลงพลิกผันอย่างมากมายของประเทศชาติตลอดช่วงเวลาหลายสิบปีทีผ่านมา
พระศพอดีตกษัตริย์ที่นำพากัมพูชาผ่านช่วงเวลาหลายทศวรรษของการปลดแอกจากเจ้าอาณานิคม, การสร้างประเทศ, สงครามกลางเมือง, การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, และสันติภาพ ได้รับการอัญเชิญกลับมาสู่เมืองหลวงพนมเปญด้วยเที่ยวบินพิเศษจากกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นสถานที่เสด็จสวรรคตเมื่อช่วงเช้ามืดวันจันทร์ (15) ที่ผ่านมา
หีบพระศพที่คลุมด้วยธงราชวงศ์สีน้ำเงิน และประดับประดาด้วยดอกไม้ เคลื่อนไปตามถนนสายต่างๆ ของกรุงพนมเปญ โดยยานยนต์ที่ตกแต่งเป็นรูปนกหงส์สีทอง และมีพระสงฆ์นั่งสวดมนตร์อยู่ทั้งทางด้านหน้าและด้านหลังของหีบพระศพ
สมเด็จพระราชินีโมนิก พระอัครมเหสีของสมเด็จพระนโรดมสีหนุ, กษัตริย์นโรดมสีหมุนี ซึ่งเป็นพระราชโอรสของอดีตกษัตริย์ผู้ล่วงลับ, ตลอดจนนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ต่างร่วมอยู่ในขบวนอัญเชิญพระศพที่เคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ
ประชาชนชาวกัมพูชาทุกเพศทุกวัย ซึ่งพร้อมใจกันสวมเสื้อขาวติดริบบิ้นไว้ทุกข์และถือธงชาติขนาดเล็กๆ พากันเฝ้ารออย่างแออัดอยู่ตามเส้นทางอัญเชิญพระศพจากท่าอากาศยานสู่พระราชวังหลวงที่มีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร โดยที่ตามเส้นทางเหล่านี้หลายๆ จุดประดับประดาด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่ของสมเด็จพระนโรดมสีหนุที่กำลังแย้มพระสรวล ครั้นเมื่อขบวนพระศพเคลื่อนผ่านไป ผู้รอเฝ้าก็พากันยกมือถวายบังคม หลายๆ คนน้ำตานองหน้าและกระทั่งร้องไห้โฮ
“นี่เป็นวันที่ประชาชนเขมรพากันเศร้าโศก พ่อหลวง (The King-Father) รักลูกหลานของท่านมาก” เตง นารี แม่เฒ่าวัย 67 ปี กล่าวกับเอเอฟพีขณะที่น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม
รัฐบาลกัมพูชาประมาณการว่ามีประชาชนกว่า 100,000 คนออกมาเฝ้ารอการเสด็จนิวัตประเทศครั้งสุดท้ายของอดีตพระราชาธิบดีพระองค์นี้ ซึ่งยังคงเป็นที่เคารพรักของประชาชนถึงแม้ได้ทรงสละราชบัลลังก์และให้พระราชโอรสขึ้นครองราชย์แทนตั้งแต่ปี 2004 ด้วยเหตุผลเรื่องทรงพระชราและพระสุขภาพไม่ดี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้คนเป็นพันๆ พากันมาเฝ้ารอตั้งแต่ช่วงรุ่งสาง โดยต่างกางร่มเพื่อต่อสู้กับแสงอาทิตย์ที่เริงแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่อีกหลายๆ คนอยู่บนรถกระบะที่ประดับพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนโรดมสีหนุ
การอัญเชิญพระศพกลับคืนประเทศและนำไปประทับในพระราชวังหลวงในวันพุธ ถือเป็นการเริ่มต้นช่วงระยะเวลาการไว้อาลัยอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 1 สัปดาห์ตามประกาศของรัฐบาล โดยที่สถานีทีวีและวิทยุได้รับคำสั่งให้งดแพร่ภาพรายการบันเทิง นอกจากนี้ยังมีการยกเลิกเทศกาลสงกรานต์ในสัปดาห์หน้า ซึ่งปกติแล้วดึงดูดนักท่องเที่ยวนับล้านคนสู่พนมเปญ
พระศพสมเด็จพระนโรดมสีหนุจะประทับในพระราชวังหลวงเป็นเวลานาน 3 เดือน จากนั้นจึงจะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงตามแบบโบราณราชประเพณี
ตั้งแต่ที่ข่าวการเสด็จสวรรคตด้วยอาการพระหทัยวายของสมเด็จพระนโรดมสีหนุแพร่กระจายออกไปเมื่อวันจันทร์ ชาวกัมพูชาจำนวนมากก็ได้หลั่งไหลไปยังบริเวณหน้าพระราชวังหลวงเพื่อแสดงความเคารพและไว้อาลัยพระองค์ด้วยดอกบัว ธูปและเทียน หลายคนคุกเข่าร้องไห้
ส่วนในนครหลวงของจีน ซึ่งอดีตกษัตริย์กัมพูชาพระองค์นี้ทรงใช้เป็นที่พำนักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ภายหลังจากสละราชสมบัติ ก็ได้แสดงความเคารพต่อสมเด็จพระนโรดมสีหนุที่ทางการจีนถือเป็นมิตรเก่าแก่ยาวนาน ด้วยการลดธงชาติลงครึ่งเสาในบริเวณมหาจัตุรัสเทียนอันเหมิน นับเป็นการแสดงท่าทียกย่องให้เกียรติซึ่งน้อยครั้งเต็มทีที่จะปฏิบัติต่อผู้ปกครองของต่างประเทศผู้ล่วงลับ