เอเอฟพี - รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล เอวิกดอร์ ลีเบอร์แมน ออกมาทำนายวันนี้ (4) ว่า หลังจากที่เกิดการปฏิวัติประชาธิปไตย “อาหรับสปริง” ในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลางแล้ว ผลของมาตรการคว่ำบาตรที่ทำให้เศรษฐกิจอิหร่านย่ำแย่อาจนำมาซึ่งการ “ปฏิวัติเปอร์เซีย” (Persian Spring) ในอีกไม่ช้านี้
ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีอิสราเอลมีขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้ (3) เกิดการจลาจลขึ้นในกรุงเตหะรานของอิหร่าน อันเนื่องมาจากความไม่พอใจที่เงินเรียลอ่อนค่าลงกว่าครึ่งจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งก็เป็นผลจากการที่อิหร่านถูกชาติตะวันตกรุมคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
“หลังจากการปฏิวัติอาหรับ เราจะเห็นการปฏิวัติเปอร์เซียตามมาในอีกไม่ช้า เพราะความไร้เสถียรภาพเริ่มแผ่ขยายไปทั่วอิหร่าน ไม่ใช่เฉพาะในเตหะรานเท่านั้น” ลีเบอร์แมนกล่าวผ่านสถานีวิทยุทหารอิสราเอล
“แน่นอนว่าการประท้วงเคลื่อนไหวจะรุนแรงขึ้นอีก ในช่วงที่อิหร่านจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในฤดูร้อนปีหน้า”
“ระบอบอิหร่านเดินมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญแล้ว แม้มาตรการคว่ำบาตรอาจไม่ทำให้ผู้นำระดับสูงของอิหร่านละเลิกโครงการนิวเคลียร์ได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือ ชาวอิหร่านเริ่มตระหนักว่าพวกเขาไม่พร้อมที่จะเสียสละความกินดีอยู่ดีเพื่อธำรงไว้ซึ่งการปฏิวัติอิหร่าน และความทะเยอทะยานแบบบ้าคลั่งของผู้นำประเทศ”
ศัตรูทางการเมืองของประธานาธิบดี มะห์มูด อะห์มาดิเนจัด ต่างตำหนิว่า แผนบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของรัฐบาลคือต้นเหตุที่ทำให้ค่าเงินเรียลรูดมหาราช ขณะที่อะห์มาดิเนจัดก็กล่าวโทษมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก แต่ยังยืนยันจะไม่ล้มเลิกกิจกรรมนิวเคลียร์
ลีเบอร์แมนเรียกร้องให้ชาติตะวันตกเข้าไปสนับสนุนนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน ซึ่งเคยลุกฮือเมื่อครั้งที่อะห์มาดิเนจัดได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 เมื่อปี 2009 แกนนำผู้ประท้วงหลายคนยังคงถูกกักบริเวณในบ้านพักจนถึงปัจจุบัน
“ครั้งนี้ตะวันตกจะต้องช่วยหนุนหลังนักเคลื่อนไหวอิหร่าน, อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างพวกเขา, มอบทุนสนับสนุน และระดมความช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ, สหภาพยุโรป และหน่วยงานอื่นๆ”
รัฐบาลอิหร่านถูกกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ จากบทลงโทษทางเศรษฐกิจที่มีสหรัฐฯ เป็นตัวตั้งตัวตี เพื่อยับยั้งโครงการนิวเคลียร์ที่อิสราเอลและชาติตะวันตกเชื่อว่าเป็นเพียงข้ออ้างลักลอบพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง