รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ตำรวจบังกลาเทศเผยวันนี้ (2) ได้จับกุมชาวมุสลิมจำนวนเกือบ 300 คน หลังเกิดเหตุกลุ่มชาวมุสลิมบุกโจมตีวัดและบ้านเรือนชาวพุทธทางภาคตะวันออกของประเทศขณะที่แกนนำชาวพุทธในพื้นที่ชี้เป็นเหตุรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นกับชุมชนชาวพุทธ นับตั้งแต่บังกลาเทศแยกตัวเป็นเอกราชจากปากีสถานเมื่อปี 1971
รายงานข่าวซึ่งอ้างตำรวจบังกลาเทศระบุว่า มีผู้ถูกจับกุม 162 คนในเมืองค็อกซ์ บาซาร์ ศูนย์กลางด้านการประมงทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศซึ่งอยู่ใกล้พรมแดนพม่า ส่วนอีก 76 คนถูกจับกุมที่เมืองจิตตะกอง และอีก 36 คนถูกจับกุมที่เขตบันดาร์บัน
ในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชุมชนชาวพุทธทางตะวันออกของบังกลาเทศนั้น ล่าสุด ทางการพบว่าเฉพาะในเมืองค็อกซ์ บาซาร์แห่งเดียวมีวัดพุทธถูกเผาถึง 11 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้มี 7 แห่งที่ได้รับความเสียหายหนัก และพบการบุกปล้นบ้านเรือนของชาวพุทธจำนวนมาก ส่วนที่เมืองรามู ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุรุนแรงเมื่อคืนวันเสาร์ (29 ก.ย.) พบว่าบ้านเรือนชาวพุทธกว่า 100 หลังถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย หลังกลุ่มชาวมุสลิมราว 25,000 คนบุกเข้าจู่โจมเพราะไม่พอใจที่ชายชาวพุทธรายหนึ่งโพสต์รูปภาพหมิ่นคัมภีร์กุรอ่านในเฟซบุ๊ก โดยหนึ่งในภาพที่เป็นต้นตอปัญหา คือ ภาพที่มีการหย่อนคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ลงใน “โถส้วม” เป็นเหตุให้เกิดความรุนแรงลุกลามไปยัง 5 เมืองทั่วภาคตะวันออก
ด้าน อาจิต รันจัน บารัว ประธานสมาคมชาวพุทธบังกลาเทศ เผยเป็นเหตุรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นกับชุมชนชาวพุทธ นับตั้งแต่บังกลาเทศ ประกาศเอกราชแยกตัวจากปากีสถานในปี 1971 ขณะที่ข้อมูลของทางการบังกลาเทศระบุว่า ประชากรชาวพุทธมีสัดส่วนไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด 153 ล้านคนในบังกลาเทศ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม
ก่อนหน้านี้ โมฮิอุดดิน ข่าน อาลัมกีร์ รัฐมนตรีมหาดไทยบังกลาเทศ ออกโรงเมื่อวันจันทร์ (1) กล่าวโทษกลุ่มผู้อพยพชาวมุสลิมโรฮิงญาจากพม่า รวมถึงศัตรูทางการเมืองของรัฐบาลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีชุมชนชาวพุทธในครั้งนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีหญิงชีคห์ ฮาซินา ซึ่งยังไม่กลับจากการเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติที่มหานครนิวยอร์ก ได้เรียกร้องให้มีมาตรการที่เข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการโจมตีชุมชนของชนกลุ่มน้อยในประเทศขึ้นอีก
