เอเจนซีส์ - เตหะรานทดสอบขีปนาวุธนำวิถีที่มีพิสัยทำการถึงอิสราเอล เพื่อโชว์แสนยานุภาพว่าสามารถตอบโต้ได้หากถูกโจมตี ส่วนรัฐสภาอิหร่านก็ร่างกฎหมายเรียกร้องปิดช่องแคบฮอร์มุซ ตอบโต้โดยตรงต่อมาตรการแซงก์ชันจากอียูที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอาทิตย์ (1) ขณะเดียวกันมีรายงานว่า สหรัฐฯได้เสริมกำลังเรือรบและเครื่องบินรบอย่างเงียบๆ เข้าไปในเขตอ่าวเปอร์เซีย
เครือข่ายทีวีอัล-อาลามของอิหร่านรายงานว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านได้ยิง ชาฮับ 3 ขีปนาวุธพิสัยกลาง ไปยังเป้าหมายสมมติในทะเลทรายคาวีร์เมื่อวันอังคาร (3) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการซ้อมรบภายใต้ชื่อเกรต โพรเฟต 7 ที่จะสิ้นสุดในวันพุธ
จรวดชาฮับ 3 มีพิสัย 2,000 กิโลเมตร ซึ่งในทางทฤษฎีสามารถโจมตีอิสราเอลที่อยู่ห่างจากอิหร่านเพียง 1,000 กิโลเมตร
นอกจากนี้ยังมีการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 รุ่น คือ ชาฮับ 1 และชาฮับ 2 ระยะทาง 300-500 กิโลเมตรด้วย ขณะที่สำนักข่าวฟาร์ส นิวส์รายงานว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติได้ทดสอบยิงขีปนาวุธหลายแบบจากสถานที่ต่างๆ โดยมีเป้าหมายเดียวกันที่ทะเลทรายคาวีร์
ส่วนในวันสุดท้ายนั้นจะมีการทดสอบเครื่องบินทิ้งระเบิดไร้คนขับ
แม้รัฐอิสลามแห่งนี้เคยทดสอบขีปนาวุธชาฮับมาก่อนและจัดให้มีการซ้อมรบบ่อยครั้ง แต่สำหรับการซ้อมรบครั้งนี้ พล.อ.ฮุสเซน ซาลามี รองผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ ระบุว่า มีเป้าหมายในการประกาศความพร้อมและพลังของชาวอิหร่านในการปกป้องผลประโยชน์และค่านิยมหลักของชาติ ซึ่งนัยคือการส่งสาส์นถึงอิสราเอลและอเมริกาให้คิดให้ดีก่อนที่จะคุกคามหรือโจมตีเตหะราน
“นี่คือปฏิกิริยาตอบโต้ผู้ที่แสดงความหยาบคายทางการเมืองต่อชาวอิหร่านด้วยการบอกว่า ทางเลือกทั้งหมดอยู่บนโต๊ะเจรจา”
การทดสอบชาฮับ 3 ยังเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ผู้เชี่ยวชาญของอิหร่านและทั่วโลกเจรจากันในอิสตันบูล เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของตะวันตกให้เตหะรานยุติโครงการนิวเคลียร์
อิสราเอลที่ไม่มีส่วนร่วมในการเจรจา และพันธมิตรคืออเมริกา ต่างสงวนสิทธิ์ในการใช้กำลังทหาร หากมาตรการทางการทูตและการคว่ำบาตรไม่สามารถโน้มน้าวให้อิหร่านยุติกิจกรรมนิวเคลียร์ได้
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ย้ำหลายครั้งว่า “ทางเลือกทั้งหมดอยู่บนโต๊ะเจรจา”
การทดสอบขีปนาวุธของอิหร่านยังเกิดขึ้นในวันครบรอบ 24 ปีที่เครื่องบินรบสหรัฐฯ ยิงเครื่องบินโดยสารของอิหร่านตก ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 290 คนเสียชีวิตทั้งหมด และนำไปสู่การยุติสงครามอิหร่าน-อิรัก โดยวอชิงตันอ้างว่า เป็นผลจากความผิดพลาดของข้อมูลที่ทำให้เข้าใจว่า เครื่องบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินขับไล่ของอิหร่าน
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวประจำรัฐสภาของอิหร่านรายงานว่า สมาชิกรัฐสภา 100 คนจาก 190 คน ได้ลงชื่อรับรองร่างกฎหมายของคณะกรรมาธิการด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติของรัฐสภา ที่เรียกร้องให้อิหร่านพยายามปิดกั้นเรือน้ำมันไม่ให้เดินทางผ่านช่องแคบฮอร์มุซไปยังประเทศที่สนับสนุนการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อสหภาพยุโรป (อียู) ที่งดนำเข้าน้ำมันจากเตหะรานตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบปลายทางของเรือทุกลำที่จะผ่านช่องแคบฮอร์มุซที่อยู่ภายใต้การจับจ้องอย่างระแวดระวังของกองเรืออเมริกัน
ทางด้านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานในวันอังคาร(3)ว่า กองทัพเรือสหรัฐฯได้เพิ่มเรือกวาดทุ่นระเบิดเข้าไปในแถบอ่าวเปอร์เซียเป็น 2 เท่าตัว ทำให้เวลานี้มีทั้งสิ้น 8 ลำ นอกจากนั้นยังเสริมเครื่องบินรบเอฟ 22 และเอฟ 15ซี อีกหลายลำไปประจำการยังฐานทัพในภูมิภาคนั้น เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของกองเรือบรรทุกเครื่องบินที่ประจำการอยู่ก่อนแล้ว
นิวยอร์กไทมส์ยังอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่กล่าวว่า การเสริมกำลังอย่างเงียบๆ ครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเรียกความมั่นใจจากอิสราเอลว่า วอชิงตันจริงจังกับการแก้ปัญหาโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน และการปกป้องให้ช่องแคบฮอร์มุซ ยังคงเปิดใช้การได้
“อย่าแม้แต่คิดที่จะปิดช่องแคบนี้ เพราะเราจะกวาดล้างทุ่นระเบิดทั้งหลาย อย่าแม้แต่คิดที่จะส่งเรือรบของพวกคุณออกมาก่อกวนเรือรบของเราหรือการเดินเรือพาณิชย์ เพราะเราจะทำให้เรือพวกนั้นของคุณจมสู่ก้นอ่าว” นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า นี่เป็นคำพูดของเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งขอให้สงวนนาม
