เอเอฟพี - หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ชี้เหตุถล่มสถานกงสุลอเมริกันในลิเบียจนมีผู้เสียชีวิตนั้นเป็นการโจมตีที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า และมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ แต่ย้ำว่ามีอีกหลายข้อสงสัยที่ยังไม่มีคำตอบ
ชอว์น เทอร์เนอร์ โฆษกสำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติแถลงในวันศุกร์ (28) ที่ผ่านมาว่า “ยังไม่ชัดเจนว่ากลุ่มใด หรือบุคคลใด เป็นผู้บัญชาการ หรือควบคุมการโจมตีดังกล่าวทั้งหมด และว่าหัวหน้ากลุ่มหัวรุนแรงคนใดที่สั่งการให้สมาชิกของพวกเขาเข้าร่วมก่อเหตุ”
“เราประเมินได้ว่าผู้ที่ก่อเหตุบางคนต้องมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ใกล้ชิด หรือเข้าข้างกับกลุ่มอัลกออิดะห์” เขาระบุ
รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ให้คำอธิบายแตกต่างกันไปว่า ใครอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกของลิเบีย เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา จนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คัดค้านในพรรครีพับลิกัน ในเวลาที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีใกล้เข้ามา
ขณะที่ ทั้งรัฐมนตรีกลาโหม เลียน เพเนตตา และรัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน ระบุว่าเหตุโจมตีดังกล่าวเป็นการโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย โดยผู้นำเพนตากอนยังชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องใช้เวลาอีกหลายวันในการหาข้อสรุปว่ากลุ่มหัวรุนแรงใดเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ
เทอร์เนอร์อธิบายว่า เมื่อหน่วยข่าวกรองได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวเพิ่มเติม จึงมีการทบทวนการประเมินเบื้องต้น กับข้อมูลใหม่ ที่บ่งชี้ว่าการโจมตีก่อการร้ายครั้งนั้นได้รับการวางแผนมาอย่างดี และกระทำการโดยกลุ่มหัวรุนแรง แต่เขาย้ำว่า แม้การสอบสวนมีความคืบหน้าอย่างมาก แต่ก็ยังคงมีคำถามอีกมากที่ยังไม่มีคำตอบ
ด้าน สมาชิกรัฐสภาจากพรรครีพับลิกันบางคนกล่าวหาว่ารัฐบาลของโอบามารู้เกือบจะในทันทีว่าอัลกออิดะห์มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุโจมตีที่เมืองเบงกาซี ซึ่งคร่าชีวิตเอกอัครราชทูต และเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันอีก 3 คน โดยในวันพฤหัสบดี (27) เพเนตตาได้กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าอัลกออิดะห์ หรือกลุ่มที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ นั้นเป็นมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ดังกล่าว