รอยเตอร์ - กองกำลังติดอาวุธอันซาร์ อัล-ชาริอะห์ในลิเบีย ถูกขับไล่ออกจากเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกของประเทศ หลังประชาชนลุกฮือขึ้นประท้วงต่อต้านกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เช้าตรู่วันนี้ (22) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย บาดเจ็บอีก 20 คน ขณะที่กองหนุนพยายามยิงตอบโต้ผู้ชุมนุมจากฐานที่มั่นเช่นกัน
อันซาร์ อัล-ชาริอะห์ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเบงกาซี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ทำให้เอกอัครราชทูตวอชิงตัน ประจำลิเบีย และเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันอีก 3 รายเสียชีวิต แม้ว่ากลุ่มติดอาวุธดังกล่าวจะปฏิเสธ
ความเคลื่อนไหวของประชาชนเพื่อต่อต้านกลุ่มติดอาวุธในครั้งนี้เหมือนว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกันระหว่างตำรวจ ทหารฝ่ายรัฐบาล และนักเคลื่อนไหว หลังการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในวันศุกร์ (21) ที่ผ่านมา
ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนบุกเข้าไปยังศูนย์บัญชาการของอันซาร์ อัล-ชาริอะห์ ในเมืองเบงกาซี กระจากธงสัญลักษณ์ จุดไฟเผารถ แกว่งดาบ พร้อมตะโกน "ไม่เอาอัลกออิดะห์แล้ว" และ เลือดที่เราเสียเพื่ออิสรภาพจะต้องไม่สูญเปล่า"
ผู้ชุมนุมประท้วงรายหนึ่งเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ที่สถานกงสุลอเมริกัน ประชาชนในเมืองเบงกาซีก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับพวกหัวรุนแรงแล้ว และในเมื่อคนเหล่านั้นไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อกองทัพ ประชาชนเลยต้องขับไล่พวกเขาเอง
อาดูซาลาม อัล-ตอร์ฮูนี เจ้าพนักงานรัฐ ซึ่งเข้าถึงการประท้วงระลอกแรก กล่าวว่า รถกระบะหลายคัน พร้อมเหล่ามือปืนของกลุ่มติดอาวุธ เผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ประท้วง และเริ่มกราดยิง โดยมีผู้ประท้วงถูกยิงที่ขา 2 ราย
เมื่อเหล่าผู้ประท้วงออกจากศูนย์บัญชาการของกลุ่มติดอาวุธแห่งนี้แล้ว จำนวนผู้ชุมนุมก็เพิ่มมากขึ้นเป็นหลายพันคน และมุ่งหน้าไปยังฐานทัพ ที่อันซาร์ อัล-ชาริอะห์ ใช้ร่วมกับกลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่ง มือปืนของกลุ่มติดอาวุธเริ่มเปิดฉากยิงทันทีที่ผู้ประท้วงไปถึง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บรายหลาย
หลังจากฝูงชนบุกเข้ายึดฐานทัพดังกล่าวแล้ว รถบรรทุกทหารของรัฐบาลลิเบียก็เร่งเครื่องออกจากฐานทัพส่งเสียงเชียร์ถึงชัยชนะ โดยมีกลุ่มคนพร้อมมีดสปาร์ตา และไม้กระบองปิดถนนทางหลวงที่จะมุ่งหน้าไปยังฐานทัพของกลุ่มติดอาวุธแห่งนี้ และเพื่อป้องกันไม่ให้หัวขโมยขับรถหนีไปพร้อมอาวุธหนัก
ทั้งนี้ ประชาชนชาวลิเบียจำนวนหลายพันคนได้ร่วมกันเดินขบวนประท้วงในเมืองเบงกาซี เมื่อวันศุกร์ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และต่อต้านกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ ซึ่งสหรัฐฯ ประณามว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีสถานกงสุลของตน