เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่อเมริกัน 2 ใน 4 รายที่เสียชีวิตจากเหตุโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเบงกาซีของลิเบีย เป็นอดีตหน่วยรบพิเศษ “ซีลส์” สหรัฐฯ เผยวานนี้ (13)
ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงยืนยันว่าผู้เสียชีวิต 2 คนคือ ไทโรน วูดส์ และเกล็น โดเฮอร์ที ซึ่งเป็นอดีตนายทหารสัญญาบัตร “ที่รับใช้ชาติอย่างสมศักดิ์ศรี”
ผู้เสียชีวิตอีก 2 คนจากเหตุการณ์ประท้วงภาพยนตร์หมิ่นอิสลาม คือ เอกอัครราชทูต คริส สตีเวนส์ และเจ้าหน้าที่จัดการข้อมูล ฌอน สมิธ
“สถานทูตอเมริกาไม่อาจปฏิบัติภารกิจอันสำคัญทั่วโลกได้ หากปราศจากความเสียสละของผู้กล้าอย่าง ไทโรน และ เกล็น” คลินตันกล่าวในถ้อยแถลง
สำนักข่าวเอบีซีนิวส์รายงานว่า โดเฮอร์ทีมีหน้าที่ติดตามขีปนาวุธประทับบ่าชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศหรือ MANPADS ที่ยังหลงเหลืออยู่ในลิเบียหลายพันกระบอก หลังจากพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถูกโค่นอำนาจ
โดเฮอร์ที เคยให้สัมภาษณ์กับเอบีซีนิวส์ เมื่อเดือนที่แล้วว่า ทีมของเขาต้องเดินทางไปทั่วลิเบียเพื่อตามหาอาวุธเหล่านี้ และเมื่อพบก็จะทำลายทิ้งทันที
โดเฮอร์ที เคยผ่านหลักสูตรหน่วยแม่นปืนและเจ้าหน้าที่การแพทย์ ขณะร่วมงานกับหน่วยซีลส์เป็นเวลา 7 ปี ก่อนจะลาออกไปทำงานกับบริษัทด้านความมั่นคงเอกชนแห่งหนึ่ง
ด้าน วูดส์ เคยประจำการในอิรักและอัฟกานิสถานหลายครั้ง โดยมีหน้าที่คุ้มกันสำนักงานการทูตสหรัฐฯในอเมริกากลางและตะวันออกกลาง
คลินตันเผยว่า วูดส์ “เชี่ยวชาญทั้งการรบและการบำบัดรักษา” โดยเป็นบุรุษพยาบาลวิชาชีพและและบุคลากรทางการแพทย์ด้วย เขามีบุตรชาย 3 คนกับ โดโรธี ผู้เป็นภรรยา โดยลูกชายคนเล็ก ไค ซึ่งเพิ่งจะลืมตาดูโลกเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว
มิตต์ รอมนีย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของโดเฮอร์ที ซึ่งเป็นชาวรัฐแมสซาชูเซตส์ที่ รอมนีย์ เคยเป็นผู้ว่าการรัฐ
“แอนน์ และผม ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวและญาติมิตรของ เกล็น โดเฮอร์ที ชาวเมืองวินเชสเตอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ถูกสังหารในเหตุโจมตีสถานกงสุลเมื่อวันอังคาร (11)... เกล็น รับใช้อเมริกาด้วยควาามกล้าหาญและสมเกียรติ และเสียสละชีวิตตนเองเพื่อช่วยผู้อื่น” รอมนีย์ แถลงวานนี้ (13)
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯยืนยันว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยสถานกงสุลเมืองเบงกาซีมีความเข้มงวด แม้จะปรากฏว่ากลุ่มติดอาวุธหลายสิบคนสามารถบุกเข้าไปถึงภายในอาคาร และต้านทานหน่วยคุ้มกันของสหรัฐฯ อยู่ได้นานหลายชั่วโมงก็ตาม