เอเอฟพี - ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เปรยขึ้นมาเป็นครั้งแรกว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายก่อการร้ายของอัลกออิดะห์ในแอฟริกาเหนือกับการโจมตีสถานกงสุลของวอชิงตันในเมืองเบงกาซี ประเทศลิเบีย จนก่อให้เกิดความสับสน
คลินตันกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกี่ยวกับวิกฤตในภูมิภาคเวสต์แอฟริกันซาเฮล โดยเตือนว่าพื้นที่ทะเลทรายแห่งนี้กำลังกลายเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธ ที่ไร้กฎหมายควบคุมในการทำลายความมั่นคง
คลินตันระบุว่า เครือข่ายอัลกออิดะห์ในกลุ่มติดอาวุธอิสลามิก เมกห์เรบ และกลุ่มอื่นๆ ได้ก่อเหตุโจมตี และลักพาตัวประกัน ตั้งแต่ตอนเหนือของประเทศมาลีไปจนถึงประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ ซึ่งเป็นแหล่งกบดานที่ปลอดภัยสำหรับผู้ก่อการร้าย ที่พยายามจะขยายอิทธิพล และเครือข่ายของตนไปหลายทาง
“พวกเขากำลังร่วมมือกับกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงอื่นๆ ในการบ่อนทำลายกระบวนการถ่ายโอนอำนาจตามระบอบประชาธิปไตยในแอฟริกาเหนือ ตามที่เราเคยประสบเหตุอันน่าเศร้าสลดในเมืองเบงกาซี” เธอกล่าว
รายงานข่าวบางแหล่งยืนกรานว่า คลินตันพูดอย่างเปิดเผยว่ากลุ่มอัลกออิดะห์อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเบงกาซี ซึ่งคร่าชีวิตเอกอัครราชทูตคริส สตีเวนส์ และเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันอีก 4 นาย
คลินตันเคยยอมรับว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการก่อการร้าย แต่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รีบออกมาปฏิเสธทันควันว่า เธอเพียงยืนยันว่าเครือข่ายอัลกออิดะห์ในกลุ่มอิสลามิก เมกห์เรบนั้นมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุถล่มสถานกงสุลสหรัฐฯ เท่านั้น
ข้อสงสัยว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีที่เมืองเบงกาซีนั้นยังคงสร้างความสับสน เนื่องจากแรกเริ่ม รัฐบาลโอบามา และกระทรวงต่างประเทศต่างชี้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการประท้วงต่อต้านคลิปภาพยนตร์หมิ่นศาสนาอิสลามเรื่อง อินโนเซนส์ ออฟ มุสลิมส์
ทว่า คำอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นเริ่มเปลี่ยนไปในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยทำเนียบขาวออกมายอมรับในที่สุดว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการก่อการร้าย
ขณะที่เอฟบีไอกำลังดำเนินการสอบสวนเหตุโจมตีสถานกงสุล เช่นเดียวกับคลินตันซึ่งก็เริ่มการทบทวนมาตรการด้านความมั่นคงที่เหมาะสมอย่างเป็นทางการ