เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สื่อต่างประเทศรายงานครอบครัว “อยู่วิทยา” แห่งอาณาจักรเครื่องดื่มให้พลังงานชื่อก้องโลก “Red Bull” ตัดสินใจยอมจ่ายเงินจำนวน 97,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 ล้านบาท) ให้แก่ครอบครัวของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ หวังยุติคดี หลังจากนายวรยุทธ อยู่วิทยา บุตรชายวัย 27 ปี ของนายเฉลิม อยู่วิทยา ผู้บริหารเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดังถูกจับกุมเพราะก่อเหตุขับรถเฟอร์รารีคู่ใจชนตำรวจเสียชีวิตแล้วหลบหนีกลางย่านคนรวยของกรุงเทพฯ และได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้
รายงานข่าวที่มีการเผยแพร่ใน “เนชันแนลโพสต์” หนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังของแคนาดาระบุว่า ครอบครัวอยู่วิทยาได้ยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้กับครอบครัวของด.ต.วิเชียร เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อเป็น “ค่าทำศพ” โดยหวังว่าทางครอบครัวของตำรวจที่เสียชีวิตจะไม่ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากนายวรยุทธอีก
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวระบุว่า การจ่ายเงินก้อนดังกล่าวไม่อาจช่วยให้นายวรยุทธรอดพ้นจากความผิดอาญาที่เขาขับรถยนต์หรูเฟอร์รารีมาด้วยความเร็วพุ่งชนด.ต.วิเชียร เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรวัย 47 ปี ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ แล้วหลบหนีไปกบดานในบ้านพักในย่านสุขุมวิท ขณะที่ร่างของตำรวจผู้เคราะห์ร้ายถูกนายวรยุทธจงใจขับรถลากออกไปตามท้องถนน ห่างจากจุดเกิดเหตุเป็นระยะทางไกลกว่า 200 เมตร
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า หากนายวรยุทธซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆ ของนายเฉลียว อยู่วิทยา ผู้ให้กำเนิดแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังชื่อก้องโลก ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง เขาอาจต้องรับโทษจำคุกนาน 10 ปี และปรับเงินอีกราว 660 ดอลลาร์ (ราว 20,000 บาท)
อย่างไรก็ดี รายงานของสื่อต่างประเทศชี้ว่า การจ่ายเงินเพื่อหวังยุติคดีของครอบครัวทายาทกระทิงแดงครั้งนี้ ไม่อาจช่วยบรรเทากระแสความโกรธแค้นชิงชังในสังคมไทยลงได้ หลังกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากในโลกออนไลน์ยังคงพุ่งเป้าไปที่นายวรยุทธและครอบครัว ทั้งยังมีการตั้งคำถามว่าชีวิตของตำรวจ 1 นายที่ถูกนายวรยุทธขับรถสปอร์ตราคากว่า 30 ล้านบาทพุ่งชนนั้นถูกตีค่าเป็นเงินเพียงแค่ 3 ล้านบาทเท่านั้นหรือ?
ก่อนหน้านี้ สื่อต่างประเทศหลายสำนักทั้งเดลีเมล์, สำนักข่าวบีบีซี, หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รวมถึงเว็บไซต์เดอะมิร์เรอร์ ต่างตั้งข้อสังเกตว่าเพราะเหตุใดตำรวจไทยจึงยินยอมให้คนร้ายทายาทเศรษฐีรายนี้ได้รับการประกันตัวไปในวงเงิน 500,000 บาท ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า นายวรยุทธ “มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง” ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วผู้ก่อเหตุไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นห่วงต่อเหยื่อแม้แต่น้อย ทั้งยังจงใจขับรถยนต์หรูของตนลากร่างของตำรวจเคราะห์ร้ายไปเป็นระยะทางไกลอย่างไร้ความปรานี
ขณะเดียวกัน สื่อต่างประเทศยังตั้งข้อสังเกตว่า พบความผิดปกติในคดีนี้ กรณีที่มีคนขับรถรายหนึ่งออกมารับผิดแทนผู้ก่อเหตุตัวจริง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่อาจมีการใช้ “อิทธิพลมืด” เพื่อให้ผู้กระทำความผิดที่เป็นทายาทนักธุรกิจชื่อดังรอดพ้นความผิด
ข้อมูลจากนิตยสาร “ฟอร์บส์” สื่อดังด้านธุรกิจและการเงินของสหรัฐฯ ระบุว่า ตระกูล “อยู่วิทยา” ถือเป็นตระกูลที่มีความมั่งคั่งเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทยในปีนี้ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิไม่ต่ำกว่า 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 168,435 ล้านบาท) จากรายได้ที่มาจากการถือหุ้นในธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull ธุรกิจโรงพยาบาล อสังหาริมทรัพย์ ไม่เว้นแม้แต่การที่ตระกูลอยู่วิทยาเข้าไปเป็น “เจ้าของร่วม” ในบริษัทนำเข้ารถยนต์หรูแห่งหนึ่ง ที่ได้สิทธิ์การเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของแบรนด์รถยนต์เฟอร์รารีในประเทศไทย
