เอเอฟพี - มือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงขับรถยนต์ติดระเบิดถล่มรถตู้บรรทุกชาวต่างชาติคันหนึ่งในกรุงคาบูลเมื่อวันอังคาร(18) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ในนั้นเป็นชาวแอฟริกาใต้ 8 คน ปฏิบัติการโจมตีที่กลุ่มก่อการร้ายประกาศก้องว่าเป็นการแก้แค้นภาพยนตร์ต่อต้านอิสลามที่ผลิตในสหรัฐฯ
เหตุระเบิดบนถนนหลวงสายหนึ่งที่มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงคาบูล นับเป็นการโจมตีด้วยมือระเบิดฆ่าตัวตายครั้งที่ 2 ในระยะเวลาห่างกันเพียง 10 วันภายในเมืองที่มีการป้องกันอย่างหนาแน่น เมื่อเป็นเช่นนี้จึงก่อคำถามด้านเสถียรภาพขณะที่นาโตกำลังเร่งมือถอนทหารและส่งมอบด้านการรักษาความปลอดภัยแก่กองกำลังอัฟกันในช่วงสิ้นปี 2014
ขณะเดียวกันเหตุโจมตีนี้ยังมีขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่หลายคนเปิดเผยว่ากองกำลังชาติตะวันตกกำลังลดระดับปฏิบัติการร่วมกันทหารของอัฟกานิสถาน หลังจากในปีนี้มีทหารนาโตมากถึง 51 รายที่ถูกสหายร่วมงานท้องถิ่นยิงเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่าพบเห็นร่างผู้เสียชีวิต 6 ศพ กระจัดกระจายอยู่ตามซากรถตู้ พร้อมกันนั้นยังมีรถยนต์คันอื่นถูกลูกหลงได้รับความเสียหายและไฟลุกท่วมอยู่กลางถนนตรงจุดเกิดเหตุ
"เวลาประมาณ 6.45 น.(ตรงกับเมืองไทย 9.45 น.) มือระเบิดฆ่าตัวตายขับรถซีดานระเบิดตนเองกลางถนนที่เขต 15 ที่มุ่งหน้าไปยังสนามบิน ผลก็คือมีคนงานของบริษัทต่างชาติ 9 คนและพลเมืองอัฟกัน 3 คนเสียชีวิต ขณะที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 ราย" ตำรวจระบุในถ้อยแถลง
ด้านกระทรวงต่างประเทศแอฟริกาใต้เปิดเผยว่าพลเมืองของตน 8 รายเสียชีวิตจากเหตุโจมตีดังกล่าว โดยทั้งหมดเป็นคนงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่รับเหมางานอยู่ ณ สนามบินนานาชาติอัฟกานิสถาน
ต่อมาทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกานิสถานแถลงยืนยันเช่นกันว่ามีพลเมืองอัฟกัน 3 คน ในนั้นประกอบด้วยคนขับและล่าม เสียชีวิตในหตุการณ์นี้ ขณะที่อีกคนที่เหลือเป็นชาวคีร์กีซสถาน นอกจากนี้แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 11 คน
ภายหลัง กลุ่มเฮซบ์-ไอ อิสลามี พวกหัวรุนแรนกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของอัฟกานิสถาน ออกมาอ้างความรับผิดชอบ โดยระบุว่าปฏิบัติการนี้ดำเนินการโดยมือระเบิดฆ่าตัวตายสตรีเพื่อแก้แค้นภาพยนตร์ "อินโนเซนซ์ ออฟ มุสลิมส์" ซึ่งจุดชนวนจลาจลต่อต้านสหรัฐฯอย่างกราดเกรี้ยวทั้งในเอเชีย แอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง
"เหตุระเบิดคือการแก้แค้นต่อการดูหมิ่นศาสดามูฮัมหมัดของเรา" ซูบาอีร์ ซิดิกี โฆษกของกลุ่ม โทรศัพท์ถึงเอเอฟพีจากที่ซ่อนตัว
หาได้ยากมากที่กลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มนี้จะมาอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการโจมตีในอัฟกานิสถาน และก็เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเช่นกันที่คนร้ายจะเป็นผู้หญิง เนื่องจากในอัฟกานิสถาน มีสตรีจำนวนน้อยเท่านั้นที่ขับรถ อย่างไรก็ตามจากข้อสันนิษฐานของตำรวจ เชื่อว่ามือระเบิดเป็นสตรี เนื่องจากพบชิ้นส่วนขาผู้หญิงในที่เกิดเหตุ
เมื่อวันจันทร์(17) การประท้วงต่อต้านภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสนาอิสลามในอัฟกานิสถาน เลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรงเป็นครั้งแรก โดยผู้ชุมนุมหลายร้อยคนขว้างปาก้อนหินเข้าใส่ฐานทัพแห่งหนึ่งของสหรัฐฯและเกิดการปะทะกับตำรวจ
ขณะที่ในเมืองคุนดูซ ทางเหนือของประเทศ นักศึกษามหาวิทยาลัยขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจและจุดไฟเผาภาพถ่ายของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ในเหตุประท้วงรอบใหม่เมื่อวันอังคาร(18)