สหรัฐฯ อพยพ จนท.จากซูดาน-ตูนิเซีย “อัลกออิดะห์” ปลุกระดมโจมตีมะกัน

เอเจนซีส์ - วอชิงตันสั่งเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่มีภารกิจสำคัญเดินทางออกจากตูนีเซียและซูดาน หลังผู้ประท้วงชาวมุสลิมจู่โจมเข้าสู่สถานเอกอัครราชทูตอเมริกันใน 2 ประเทศแอฟริกาเหนือดังกล่าว ขณะที่กลุ่มอัลกออิดะห์ก็เรียกร้องชาวมุสลิมทั่วโลกโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ตอบโต้หนังต่อต้านศาสนาอิสลามของโปรดิวเซอร์มือสมัครเล่นชาวอเมริกัน

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้จัดส่งหน่วยนาวิกโยธินต่อต้านการก่อการร้ายเข้าไปยังลิเบียและเยเมนแล้ว รวมทั้งให้เรือพิฆาต 2 ลำลอยลำอยู่นอกชายฝั่งแอฟริกาเหนือ

ทว่า ซูดานปฏิเสธในวันเสาร์ (15) ต่อคำขอของสหรัฐฯ ที่จะส่งหน่วยรบพิเศษไปคุ้มครองสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันในกรุงคาร์ทูม ซึ่งถูกโจมตีในวันศุกร์ (14) อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา วอชิงตันก็สั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตลอดจนเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่มีภารกิจสำคัญ อพยพออกจากประเทศนั้น

นอกจากนั้น สหรัฐฯ ยังสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่มีภารกิจสำคัญออกจากสถานเอกอัครราชทูตในตูนิเซีย ซึ่งก็ถูกโจมตีในวันศุกร์เช่นเดียวกัน อีกทั้งเรียกร้องให้พลเมืองอเมริกันเดินทางออกไปจากกรุงตูนิส เมืองหลวงของตูนิเซีย

ในเมืองต่างๆ ทั่วโลกอิสลาม มีผู้ออกมาชุมนุมประท้วงตั้งแต่กสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อระบายความโกรธแค้นต่อภาพยนตร์เรื่อง “อินโนเซนซ์ ออฟ มุสลิม” ของผู้สร้างมือสมัครเล่นในสหรัฐฯ ด้วยการโจมตีสัญลักษณ์ของอเมริกันตั้งแต่สถานทูตไปจนถึงโรงเรียนและร้านฟาสต์ฟูด

ความรุนแรงปะทุถึงขีดสุดในวันศุกร์ (14) โดยมีรายงานว่ามีผู้ประท้วงอย่างน้อย 11 คนเสียชีวิตจากการปะทะกับตำรวจ ซึ่งอารักขานักการทูตอเมริกันจากม็อบในอียิปต์ เลบานอน ซูดาน ตูนีเซีย และเยเมน จากนั้นในวันเสาร์ (15) สถานการณ์ก็ดูจะบรรเทาความระอุลงมา

ทว่า ในวันอาทิตย์ (16) ยังคงมีนักเรียนหลายร้อยคนเดินขบวนบนถนนและตะโกนต่อต้านอเมริกันในกรุงคาบูล, อัฟกานิสถาน ขณะที่รัฐบาลบังคลาเทศประณามหนังเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการชุมนุมประท้วงในเมืองซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย และที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ด้าน ซาอุดีอาระเบีย ประณามการโจมตีนักการทูตและสถานทูตอเมริกันทั่วตะวันออกกลางว่า ไม่ใช่วิถีอิสลาม พร้อมกันนั้นก็เรียกร้องรัฐบาลและหน่วยงานนานาชาติดำเนินคดีอาญากับผู้ประณามศาสดามูฮัมหมัด

ขณะที่กระแสโกรธแค้นของมุสลิมกำลังเดือดพล่าน กลุ่มอัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาหรับ (AQAP) ได้ออกคำแถลงทางเว็บไซต์ในวันเสาร์ เรียกร้องให้โจมตีสำนักงานการทูตของอเมริกาในตะวันออกกลางและแอฟริกา รวมทั้งโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในโลกตะวันตกต่อไป
ในเหตุการณ์รุนแรงที่สุดที่จุดชนวนโดยหนังต่อต้านอิสลามเรื่องดังกล่าว คริส สตีเวนส์ เอกอัครราชทูตอเมริกันประจำลิเบีย และเจ้าหน้าที่การทูตอีก 3 คนเสียชีวิตเมื่อคืนวันอังคาร (11) เมื่อพวหัวรุนแรงอิสลามิสต์ยิงจรวดอาร์พีจีถล่มสถานกงสุลอเมริกันในเมืองเบงกาซี

ประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มาการีฟ ของลิเบีย ให้สัมภาษณ์รายการ “ไนท์ตี้ นิวส์” ของเครือข่ายเอ็นบีซีในวันเสาร์ (15) ว่า การโจมตีสถานกงสุลอเมริกันในเบงกาซีเป็นฝีมือชาวต่างชาติและชาวลิเบีย โดยขณะนี้จับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 10 คน

AQAP สาขาของอัลกออิดะห์ในเยเมน ไม่ได้อ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว แต่ระบุว่า การสังหารชีค อาบู ยายา อัล-ลิบี บุคคลหมายเลขสองของอัลกออิดะห์ จากการโจมตีของอากาศยานไร้นักบินในปากีสถานเมื่อเดือนมิถุนายน ได้ปลุกความกระตือรือร้นและการตัดสินใจเด็ดขาดของบุตรแห่งโอมาร์ อัล-มุคตอร์ (วีรบุรุษผู้ประกาศอิสรภาพให้ลิเบีย) ในการแก้แค้นผู้ที่โจมตีศาสดามูฮัมหมัด

นอกจากนั้น ที่อัฟกานิสถานเมื่อวันศุกร์ (14) นักรบติดอาวุธหนักของกลุ่มตอลิบานกว่าสิบคนที่แต่งชุดทหารอเมริกัน ได้เข้าโจมตีฐานทัพที่มีการป้องกันแน่นหนาในจังหวัดเฮลมานด์ ที่เจ้าชายแฮร์รี่ของอังกฤษทรงประจำการอยู่ สังหารนาวิกโยธินอเมริกัน 2 คน ทำลายเครื่องบินขับไล่อเมริกัน 6 ลำ และสถานีเชื้อเพลิง 3 แห่ง และโรงเก็บเครื่องบิน 6 โรงได้รับความเสียหาย
ส่วนที่ เซอร์ริโตส ชานเมืองลองแองเจลีสเมื่อวันเสาร์ นาคูลา แบสเซลีย์ นาคูลา วัย 55 ปี ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์นิกายคอปติก และเป็นที่เข้าใจกันว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างภาพยนตร์ต่อต้านอิสลามที่กำลังสร้างความแค้นเคืองในเวลานี้ ถึงแม้เจ้าตัวไม่ยอมรับ ได้ถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปสอบสวน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะละเมิดทัณฑ์บน ซึ่งเขาได้รับภายหลังถูกศาลตัดสินและถูกจำคุกอยู่ระยะหนึ่ง ในความผิดฐานฉ้อโกงแบงก์

เขาได้รับการปล่อยตัวออกมาหลังถูกสอบอยู่ราว 30 นาที โดยเจ้าหน้าที่เผยว่าไม่มีการสอบสวนเกี่ยวกับโปรเจกต์หนังเรื่องนั้นโดยตรง เนื่องจากแม้จุดชนวนความรุนแรง แต่การสร้างหนังไม่ถือเป็นความผิดทางอาญาในสหรัฐฯ ซึ่งมีกฎหมายคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างแข็งขัน