เอเจนซีส์ - ชาวจีนหลายหมื่นคนจากเมืองต่างๆ ทั่วแดนมังกรออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนเป็นวันที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ (16) เพื่อร่วมกันประณามญี่ปุ่นกรณีเกาะที่เป็นข้อพิพาท กระทั่งผู้นำแดนปลาดิบต้องออกมาเรียกร้องให้ปักกิ่งปกป้องพลเมืองและผลประโยชน์ของญี่ปุ่น
ในกรุงปักกิ่ง ผู้ประท้วงนับพันนับหมื่นคนได้ออกมาชุมนุมเดินขบวนที่ด้านนอกสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นอีกในวันอาทิตย์ โดยจำนวนมากถือธงชาติจีน, ภาพประธานเหมา เจ๋อตง และธงชาติญี่ปุ่นที่เขียนข้อความประณามเหยียดหยาม พร้อมกับโยนขวดเบียร์เข้าใส่ ตลอดจนร้องเพลงชาติจีน
ขณะที่ผู้เดินขบวนเคลื่อนผ่านอาคารสถานทูต มีกำลังตำรวจจำนวนมากเฝ้าอารักขา โดยที่มีอาสาสมัครพันแขนด้วยผ้าแดงคอยแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มให้ผู้ชุมนุม รวมทั้งมีหน่วยพยาบาลคอยให้บริการ
การประท้วงในวันที่ 2 นี้ดูจะไม่รุนแรงเท่าวันเสาร์ ซึ่งสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า ผู้ประท้วงที่ล้อมสถานทูต นอกจากขว้างปาก้อนหิน ไข่ และขวดน้ำเข้าใส่แล้ว ทั้งพยายามฝ่าแนวตำรวจที่ตั้งแถวคุ้มกันสถานทูต แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ส่วนที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งก็มีการประท้วงใหญ่ในวันเสาร์แล้ว ในวันอาทิตย์ยังคงมีชาวจีนราว 1,500 คนเดินขบวนไปยังสถานกงสุลญี่ปุ่น และผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ ได้รับอนุญาตให้ผ่านแนวป้องกันของตำรวจ ไปประท้วงที่ด้านหน้าอาคารสถานกงสุลได้
ที่เมืองเฉิงตู ตำรวจควบคุมฝูงชนอย่างน้อย 2,000 คนที่พยายามเข้าบุกเข้าไปในสถานกงสุลอเมริกันเพื่อแสดงเจตนารมณ์ให้สหรัฐฯ "ฟังเสียงชาวจีน”
ภาพถ่ายที่โพสต์กันในซินา เว่ยโป๋ ซึ่งเป็น “ทวิตเตอร์” เวอร์ชั่นจีน แสดงให้เห็นว่ามีการชุมนุมเดินขบวนต่างเมืองต่างๆ อีกหลายแห่งเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่ “เคเบิลทีวี” โทรทัศน์ของฮ่องกงรายงานว่า ที่เมืองเซินเจิ้น ผู้ประท้วงถือป้ายที่มีข้อความเรียกร้องให้เลือดนองโตเกียว และมีการปะทะกับตำรวจ ส่วนที่เมืองกว่างโจว ผู้ประท้วงกว่า 1,000 คนได้เผาธงชาติญี่ปุ่น และบุกเข้าไปในโรงแรมที่ตั้งอยู่ข้างๆ สถานกงสุลญี่ปุ่น นอกจากนั้นในฮ่องกง ก็มีผู้ประท้วงหลายร้อยคนเดินขบวนไปยังสถานกงสุลญี่ปุ่น
หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นฉบับวันอาทิตย์ (16) รายงานว่า ในวันเสาร์ ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งเข้าทำลายโรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของพานาโซนิก 2 แห่งในเมืองชิงเต่าและซูโจว นอกจากนี้ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าหลายแห่งยังถูกเผา และรถได้รับความเสียหายจำนวนมาก และยังมีรายงานว่าผู้ประท้วงปล้นร้านค้า และทำลายรถและร้านอาหารญี่ปุ่นในอย่างน้อย 5 เมือง
ทางด้านนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ กล่าวผ่านสื่อมวลชนญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ เรียกร้องให้จีนรับประกันความปลอดภัยของพลเมืองญี่ปุ่นและธุรกิจญี่ปุ่น พร้อมกับระบุว่าสถานการณ์เช่นนี้น่าผิดหวัง และญี่ปุ่นจะทำการประท้วงฝ่ายจีน
การประท้วงในจีนระลอกล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจซื้อเกาะที่เป็นปัญหาที่โตเกียวเรียกว่าเซงกากุ และปักกิ่งเรียกว่าเตี้ยวอี๋ว์ จากผู้ครอบครองที่เป็นครอบครัวชาวญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารที่แล้ว (11) ซึ่งปักกิ่งตำหนิว่า เป็นการยั่วยุและละเมิดอธิปไตยของตน
วันศุกร์ที่ผ่านมา (14) เรือจีน 6 ลำล่องเข้าสู่น่านน้ำรอบหมู่เกาะที่เป็นปัญหาเพื่อ “บังคับใช้กฎหมาย” ส่งผลให้ญี่ปุ่นเรียกตัวเอกอัครราชทูตเข้าพบเพื่อแสดงการประท้วงการบุกรุกดินแดน
ความรุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้นขณะที่ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของเอเชีย 2 แห่งนี้ให้ความสำคัญกับความกดดันของการเมืองภายในประเทศ ส่งผลให้ช่องทางในการประนีประนอมทางการทูตแคบลง กล่าวคือญี่ปุ่นจะมีการเลือกตั้งใหญ่ในอีกไม่กี่เดือนนี้ บีบโนดะไม่ให้ทำตัวอ่อนแอเกินไปกับจีน
ขณะเดียวกัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังตระเตรียมการผ่องถ่ายผู้นำ โดยประธานาธิบดีหู จิ่นเทาจะลงจากตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคในการประชุมสมัชชาพรรคที่อาจมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า แม้กระแสต่อต้านญี่ปุ่นอาจช่วยส่งเสริมความสามัคคีในชาติ แต่พร้อมกันนี้ชาวจีนจำนวนมากขึ้นอาจหมดความอดทนและต้องการให้ปักกิ่งใช้ไม้แข็งกับญี่ปุ่น
ทั้งนี้ สื่อของรัฐบาลจีนยกย่องการแสดงความโกรธ “อย่างเหมาะสม” แต่เตือนว่าให้แยกแยะความแตกต่างระหว่างการละเมิดกฎหมายกับการแสดงความรักชาติ
แม้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางเศรษฐกิจ แต่จีนและญี่ปุ่นมีความทรงจำแง่ลบต่อกันมายาวนานจากการรุกรานด้วยกำลังทหารของแดนอาทิตย์อุทัยในทศวรรษ 1930 และ 1940
เหตุการณ์ที่ต้องจับตาคือวันอังคารที่จะถึงนี้ (18) ซึ่งจีนจัดพิธีรำลึกครบรอบกรณีมุกเดนที่นำไปสู่การบุกแมนจูเรียของญี่ปุ่นในปี 1931
วิลลี ลัม ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนของมหาวิทยาลัยจีนในฮ่องกง ชี้ว่าแม้การประท้วงได้รับการสนับสนุนและมีแนวโน้มต่อเนื่องจนถึงวันอังคาร แต่ทางการปักกิ่งควรสามารถเข้าควบคุมการประท้วงหลังจากนั้น พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ดูเหมือนมีความพยายามควบคุมสถานการณ์ในวันอาทิตย์มากกว่าวันเสาร์ เนื่องจากในระยะแรกบรรดาผู้นำคงต้องการใช้พลังประชาชนกดดันญี่ปุ่น
ขณะเดียวกัน มีการตั้งข้อสังเกตในบล็อกยอดนิยมของจีน ว่าการประท้วงขนาดใหญ่และโดยพร้อมเพรียงในวันอาทิตย์ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จากคนธรรมดาทั่วไปเพียงไม่กี่คน