เอเจนซีส์ - รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศซื้อหมู่เกาะที่มีข้อพิพาทกับจีนอย่างเป็นทางการ เพื่อเอาใจกลุ่มชาตินิยมในประเทศ โดยที่พยายามไม่ทำให้พญามังกรโกรธเกรี้ยว ทว่า ปักกิ่งตอบโต้ทันควัน โดยระบุว่าการกระทำฝ่ายเดียวของโตเกียวเป็นการยั่วยุ ผิดกฎหมาย และไม่ถูกต้อง พร้อมคำรามให้ญี่ปุ่นเตรียมรับผิดชอบผลที่จะเกิดตามมา
“ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ เราตกลงที่จะรับโอนสิทธิ์การครอบครองหมู่เกาะเซนกากุโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้” โอซามุ ฟูจิมูระ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันจันทร์ (10) หลังจากรัฐบาลนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ตกลงซื้อหมู่เกาะดังกล่าว หรือที่เรียกขานว่าหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ในภาษาจีน ด้วยราคา 26 ล้านดอลลาร์จากเจ้าของที่เป็นเอกชน
ฟูจิมูระเสริมว่า หมู่เกาะดังกล่าวจะเป็นของหน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เพื่อการจัดการดูแลอย่างสงบและมั่นคง
ปัจจุบัน รัฐบาลญี่ปุ่นเช่าเกาะ 4 เกาะ และเป็นเจ้าของเกาะที่ 5 ในหมู่เกาะนี้ อย่างไรก็ดี รัฐบาลไม่อนุญาตให้ประชาชนเดินทางไปยังหมู่เกาะดังกล่าว รวมทั้งไม่มีนโยบายสร้างสิ่งปลูกสร้างแต่อย่างใด
หมู่เกาะที่เป็นข้อพิพาทนี้อยู่ในบริเวณเส้นทางขนส่งที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และเชื่อว่ามีทรัพยากรแร่ธาตุอันมีค่า
สาเหตุที่โนดะตัดสินใจทำข้อตกลงนี้มาจากการที่ ชินทาโร อิชิฮาระ ผู้ว่าการปากกล้าขวาจัดของมหานครโตเกียว ประกาศว่า ต้องการซื้อหมู่เกาะเซนกากุเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ
นักวิเคราะห์มองว่า การตัดสินใจของโนดะในการซื้อแต่ไม่ได้เข้าไปจัดการหมู่เกาะดังกล่าวเพิ่มเติมใดๆ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากจะทำให้กระแสความไม่พอใจของกลุ่มชาตินิยมเบาบางลง และไม่เป็นการสร้างความระคายเคืองต่อจีนมากนัก
ฟูจิมูระย้ำว่า การซื้อหมู่เกาะจากเจ้าของที่เป็นเอกชนญี่ปุ่น “ไม่ใช่ประเด็นที่จะก่อให้เกิดปัญหากับประเทศอื่นๆ และเราหวังว่าจะไม่มีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน”
ความสัมพันธ์ลุ่มๆ ดอนๆ ระหว่างสองประเทศตึงเครียดรุนแรงในเดือนสิงหาคม เมื่อกลุ่มนักกิจกรรมที่สนับสนุนปักกิ่งขึ้นไปบนเกาะหนึ่งของหมู่เกาะเซนกากุ และถูกทางการญี่ปุ่นจับและเนรเทศออกไป ไม่กี่วันหลังจากนั้นนักชาตินิยมญี่ปุ่นกว่าสิบคนขึ้นไปปักธงบนเกาะเดียวกัน ส่งผลให้เกิดการประท้วงและทำลายทรัพย์สินของญี่ปุ่นในหลายเมืองทั่วแดนมังกร
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดนั้น ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาเตือนนายกฯ โนดะ ตั้งแต่วันอาทิตย์ (9) ระหว่างการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ว่า การซื้อหมู่เกาะที่เป็นปัญหานี้ เป็นการขัดต่อกฎหมายและไม่ถูกต้อง และจีนขอคัดค้านอย่างเต็มที่
สำนักข่าวซินหวาได้เผยแพร่บทความก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศการซื้อหมู่เกาะอย่างเป็นทางการโดยย้ำสิทธิของจีนเหนือหมู่เกาะดังกล่าวที่อยู่ห่างจากไต้หวันราว 200 กิโลเมตร และ 2,000 กิโลเมตรจากโตเกียว
“การยั่วยุหลายต่อหลายครั้งของญี่ปุ่นกรณีหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ซึ่งจีนมีอธิปไตยเหนือดินแดนดังกล่าวโดยไม่สามารถโต้เถียงได้ ทำให้อุณหภูมิความสัมพันธ์ของสองประเทศเดือดพล่าน และรัฐบาลญี่ปุ่นต้องรับผิดชอบต่อสิ่งใดก็ตามที่อาจเกิดขึ้นตามมา
“การผลักดันความเคลื่อนไหวฝ่ายเดียวที่มีลักษณะของการยั่วยุรังแต่บ่อนทำลายความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ของผลประโยชน์ร่วมกันของจีน-ญี่ปุ่น”
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ หง เล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ยืนกรานว่า หมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์เป็นของจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งจีนมีหลักฐานทั้งทางประวัติศาสตร์และกฎหมายยืนยัน
“เราจะจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดและดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อรักษาอธิปไตยของเราเหนือดินแดนดังกล่าว”
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายต่างพยายามลดอุณหภูมิทางการทูตในขณะที่ใกล้ถึงวาระครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติปลายเดือนนี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่จีนมองว่า ความขัดแย้งนี้จะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจมากกว่าการตอบโต้กันด้วยวาทะ
ตง หยาง เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนขานรับด้วยการเปิดเผยว่า ยอดขายรถญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคมชะลอลงซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นผลจากกรณีพิพาทนี้ ขณะที่โตชิยูกิ ชิกะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของนิสสัน มอเตอร์ เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ข้อพิพาทดังกล่าวส่งผลต่อยอดขายรถญี่ปุ่นในระดับหนึ่ง เนื่องจากประสบปัญหาในการจัดแคมเปญโปรโมชันกลางแจ้งขนาดใหญ่ในจีน