เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุถึงเวลาสะสางปัญหาความสัมพันธ์กับจีนที่ปีนเกลียวกันจากข้อพิพาทดินแดน แถมสถานการณ์ยังตึงเครียดยิ่งขึ้นจากเหตุการณ์คนจีนกระชากธงหน้ารถยนต์ประจำตำแหน่งเอกอัครราชทูตแดนปลาดิบในกรุงปักกิ่ง ขณะที่ตัวเอกอัครราชทูตผู้นี้ก็อยู่ภายในรถ
เหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายวันจันทร์ (27) ซึ่งชายจีนนิรนามผู้หนึ่งเข้ากระชากธงชาติญี่ปุ่นจากเสาหน้ารถยนต์คันที่เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นโดยสารอยู่ในกรุงปักกิ่ง บังเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสต่อต้านญี่ปุ่นอย่างกว้างขวางในแดนมังกร สืบเนื่องจากข้อพิพาทเกี่ยวกับเกาะเล็กๆ ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งจีนเรียกว่า เตียวอี๋ว์ ส่วนญี่ปุ่นเรียกว่า เซนกากุ
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศจีนบอกว่า เอกอัครราชทูตอูอิจิโร นิวะ ไม่ได้รับบาดเจ็บ และนอกจากธงแล้ว รถยนต์ของสถานเอกอัครราชทูตไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด
ต่อมาในวันอังคาร (28) โคอิจิโร เก็มบะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “นี่คือเหตุการณ์ที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ธงชาติเปรียบเสมือนเกียรติยศของประเทศนั้นๆ และนี่คือกฎหมายระหว่างประเทศที่คุณจะต้องเคารพ”
เขาเสริมว่าจะส่ง สึโยชิ ยามากูชิ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ เพื่อนำสาส์นจากนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะของญี่ปุ่น ไปมอบให้แก่ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา โดยคาดว่า ยามากูชิจะออกเดินทางเย็นวันอังคาร
เก็มบะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเนื้อหาในจดหมาย แต่บอกว่าเป็นโอกาสอันดีในการปรับความสัมพันธ์ที่บาดหมางจากข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก
“ผมเชื่อว่าเราต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-จีนในขณะนี้ รวมถึงสถานการณ์ของภูมิภาคโดยรวมที่ครอบคลุมถึงคาบสมุทรเกาหลี ตลอดจนถึงสถานการณ์โลก”
ทางด้าน โอซามุ ฟูจิมูระ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งในวงการเมืองแดนปลาดิบถือเป็นบุคคลทรงอำนาจอันดับ 2 ในรัฐบาล อีกทั้งทำหน้าที่เป็นโฆษกของรัฐบาล สำทับว่า สาส์นถึงผู้นำจีนมีเนื้อหาเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ที่มั่นคงระหว่างกันโดยอิงกับความคิดเห็นในภาพกว้าง
แม้ญี่ปุ่นกับจีนมีความสัมพันธ์อย่างกว้างขวางในเชิงเศรษฐกิจ ทว่า โตเกียวกับปักกิ่งบาดหมางกันบ่อยครั้งจากความเกลียดชังในอดีต โดยเฉพาะจากการรุกรานแดนมังกรของกองทัพญี่ปุ่นในช่วงก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
จุน อาสึมิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น ที่ออกมาส่งสัญญาณเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า โตเกียวอาจระงับแผนซื้อพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ท่ามกลางความขัดแย้งทางการทูตกับโสมขาว กล่าวในวันจันทร์ว่า “ผมหวังว่าจีนจะหลีกเลี่ยงการยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ที่ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศเลวร้ายลง”
ด้านสหรัฐฯ พันธมิตรใกล้ชิดของญี่ปุ่น แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของเอเชีย
ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างเพื่อนบ้านสองชาติรุนแรงขึ้นเมื่อต้นเดือน หลังจากนักเคลื่อนไหวสนับสนุนปักกิ่งบุกขึ้นไปบนเกาะที่สองประเทศอ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันแต่เป็นพื้นที่ที่ญี่ปุ่นควบคุมอยู่แห่งนี้
ทางการญี่ปุ่นจับกุมนักเคลื่อนไหวเหล่านั้นและขับออกนอกประเทศ
ต่อมาอีกไม่กี่วัน นักชาตินิยมญี่ปุ่นกว่าสิบคนขึ้นไปปักธงบนเกาะเดียวกัน ส่งผลให้พลเมืองจีนนับหมื่นคนในกว่า 20 เมืองทั่วแดนมังกร ก่อการประท้วงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ธุรกิจ ร้านอาหาร และรถยนต์ของญี่ปุ่นในบางเมือง ตกเป็นเป้าหมายความรุนแรง
ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังมีข้อพิพาทด้านดินแดนกับเกาหลีใต้ และมีความบาดหมางที่ฝังรากยาวนานมาจากการที่กองทัพแดนปลาดิบยึดครองคาบสมุทรเกาหลีระหว่างปี 1910-1945
นักวิเคราะห์บางคนกังวลว่า ความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นระหว่างพันธมิตรเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคขัดขวางผลประโยชน์วงกว้างในภูมิภาค