เอเอฟพี - ผู้นำชาติเอเชีย-แปซิฟิกเตรียมออกแถลงการณ์ร่วมที่จะป้องกันการกีดกันทางการค้า และปกป้องเศรษฐกิจโลกจากผลกระทบของวิกฤตหนี้สินยูโรโซนและปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ วันนี้(9)
กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ซึ่งจัดการประชุมสุดยอดผู้นำขึ้นที่เมืองวลาดิวอสตอกของรัสเซีย ประกอบด้วยสมาชิก 21 ชาติ รวมถึงมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ 3 ลำดับแรกของโลก ได้แก่ สหรัฐฯ, จีน และญี่ปุ่น
แถลงการณ์ร่วมซึ่ง เอเปก จะประกาศหลังเสร็จสิ้นการประชุมระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน มีเนื้อหาสะท้อนความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของหนี้สินยุโรปที่จะมีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งมูลค่าการค้ารวมคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของโลก
“สถานการณ์ในยุโรปมีผลกระทบด้านลบต่อการเติบโตในภูมิภาคนี้” ร่างแถลงการณ์ของ เอเปก ระบุ แต่ก็มีถ้อยคำชื่นชมเจตนารมณ์ของผู้นำยุโรปที่จะ “ใช้ทุกมาตรการ” เพื่อป้องกันการแตกสลายของยูโรโซน
ผู้นำชาติเอเปกต่างให้คำมั่นว่าจะกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ, ลดหนี้สาธารณะ และหลีกเลี่ยงการตั้งกำแพงการค้ารูปแบบใหม่ๆ
เมื่อวานนี้(8) ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ของจีน แถลงว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีนเองก็เผชิญแรงกดดันเชิงลบเช่นกัน แต่ยืนยันว่า ปักกิ่งจะพยายามประคับประคองเศรษฐกิจซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกให้มีเสถียรภาพ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกโดยรวม
“ด้วยความร่วมมือและการขจัดอุปสรรคทั้งหลาย เราสนับสนุนการพัฒนาอย่างมีพลวัตในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตลอดจนเศรษฐกิจของโลกโดยรวม เราจำเป็นต้องสร้างสะพานเชื่อมเข้าหากัน มิใช่ตั้งกำแพง” หู กล่าว
ประเด็นการค้าซึ่งเป็นวาระหลักของการประชุมเอเปกเสี่ยงที่จะถูกบดบังด้วยปัญหาพิพาทดินแดน เนื่องจากจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และรัสเซีย ต่างกำลังบาดหมางด้วยเรื่องหมู่เกาะพิพาท ซึ่งก่อให้เกิดกระแสชาตินิยมรุนแรงขึ้นในแต่ละประเทศ
นายกรัฐมนตรี โยชิฮิโกะ โนดะ แห่งญี่ปุ่น ประกาศจะไม่เจรจาทวิภาคีกับประธานาธิบดี หู ของจีน รวมถึงประธานาธิบดี อี มย็องบัก แห่งเกาหลีใต้ หลังจากข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะทาเกชิมะและเซ็งกากุปะทุรุนแรงในช่วงนี้ ขณะที่ ฉิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ก็กล่าวยืนยันอธิปไตยของปักกิ่งเหนือหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ในทะเลจีนตะวันออก หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่าเซ็งกากุ ระหว่างงานแถลงข่าวที่เมืองวลาดิวอสตอก
“รัฐบาลญี่ปุ่นจะได้รับรู้ถึงความแน่วแน่ของรัฐบาลและประชาชนชาวจีนที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ และความเป็นปึกแผ่นของดินแดน” ฉิน กล่าว วานนี้(8)
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯก็กำลังถูกบั่นทอนจากปัญหาในทะเลจีนใต้เช่นกัน โดยสหรัฐฯเรียกร้องให้จีนยึดถือจรรยาบรรณว่าด้วยแนวทางปฏิบัติของรัฐที่เกี่ยวข้องในทะเลจีนใต้ ซึ่งมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ และให้นานาชาติสามารถเดินเรือในทะเลจีนใต้ได้อย่างเสรี