“กิตติรัตน์” อายบ้างไหม? รบ.โปแลนด์ปรับลดเป้าการเติบโตทางศก. ชี้ไม่จำเป็นต้อง “โกหกสีขาว” ต่อประชาชน

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลโปแลนด์ประกาศเมื่อวันอังคาร (4) ปรับลดตัวเลขเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้าลง หลังตระหนักดีว่าตัวเลขที่รัฐบาลเคยตั้งเป้าไว้มิอาจกลายเป็นความจริงได้ ระบุไม่มีความจำเป็นต้องโกหกประชาชน พร้อมชี้นักลงทุนต่างชาติสมควรได้รับรู้ “ความจริง” เกี่ยวกับเศรษฐกิจของโปแลนด์

รายงานข่าวของสื่อต่างประเทศหลายสำนัก ทั้งเว็บไซต์ข่าว “โก วอร์ซอว์”, “ไฟแนนเชียล ทรีบูน” รวมทั้งเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ “บลูมเบิร์ก” ซึ่งมีฐานอยู่ที่มหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ และมีผู้ชมมากกว่า 310 ล้านคนทั่วโลก ระบุว่ารัฐบาลโปแลนด์ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ฟรานซิเซ็ค ทุสก์ วัย 55 ปี ออกมายอมรับว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2013 ไม่มีทางเติบโตถึง 2.9 เปอร์เซ็นต์ตามที่รัฐบาลเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเศรษฐกิจของโปแลนด์ซึ่งได้ชื่อว่ามีขนาด “ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรปตะวันออก” ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้สิน และปัญหาด้านงบประมาณของกลุ่มยูโรโซน ที่ถือเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของโปแลนด์

รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงวอร์ซอว์ระบุว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีทุสก์ และพรรค “ซีวิค แพลตฟอร์ม” ที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2007 ออกมายอมรับหน้าตาเฉยว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้าจะโตแค่เพียง 2.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ไม่มีทางเติบโตได้ถึง 2.9 เปอร์เซ็นต์ตามการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของรัฐบาล ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานก็จะปรับตัวดีขึ้นเพียงแค่ 0.2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในปีหน้าของโปแลนด์จะอยู่ที่ราว 2.7 เปอร์เซ็นต์ พร้อมยอมรับอย่างไม่อายว่าเศรษฐกิจของประเทศในเวลานี้อยู่ในภาวะที่ “เติบโตได้ช้าที่สุด” ในรอบเกือบ 3 ปี

ด้าน ยาคุบ ซุลค์ สมาชิกคณะกรรมาธิการด้านการเงินของรัฐสภาโปแลนด์และเป็นนักการเมืองชื่อดังสังกัดพรรค “ซีวิค แพลตฟอร์ม” ของนายกรัฐมนตรีทุสก์ ออกมาเปิดเผยที่กรุงวอร์ซอว์ เมืองหลวงของประเทศ ว่ารัฐบาลโปแลนด์จำเป็นต้องปรับลดเป้าหมายด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจลงจากเดิม และจำเป็นต้องเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

“เราจำเป็นต้องปรับตัวเลขทางเศรษฐกิจของเราเพื่อให้ประชาชนของเรา รวมถึงพวกนักลงทุนต่างชาติ ได้ทราบความจริงเกี่ยวกับเศรษฐกิจของโปแลนด์ เพราะการเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจอย่างตรงไปตรงมามันมีผลอย่างยิ่งต่อความน่าเชื่อถือของประเทศเรา” ซุลค์ ส.ส.หนุ่มไฟแรงวัย 39 ปีแห่งสภาโปแลนด์กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่านายกรัฐมนตรีทุสก์จะกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาโปแลนด์ในสัปดาห์หน้า เพื่อชี้แจงถึงภาวะทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศ รวมถึงมาตรการแก้ปัญหาของรัฐบาล เพื่อเรียกความเชื่อมั่นในขณะที่วิกฤตของกลุ่มยูโรโซนยังคงมองไม่เห็นทางออก