เอเอฟพี - บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ.ยอมรับความผิดใน 4 ข้อกล่าวหา เกี่ยวกับเหตุน้ำมันรั่วไหลครั้งใหญ่นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุจากการขุดเจาะน้ำมันครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศ
น้ำมันดิบหลายพันบาร์เรลทะลักลงสู่ทะเลติมอร์เป็นเวลานานเกือบ 10 สัปดาห์ หลังจากแท่นขุดเวสต์ แอตลาส ของบริษัท พีทีทีอีพี ออสเตรเลเชีย ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เมื่อ 3 ปีก่อน
เหตุน้ำมันรั่วไหลจากบ่อมอนทาราดังกล่าวแผ่ขยายวงกว้างไปไกลถึงน่านน้ำอินโดนีเซีย ซึ่งนักสิ่งแวดล้อมชี้ว่ากินพื้นที่เกือบ 90,000 ตารางกิโลเมตร
พีทีทีอีพี ออสเตรเลเชีย รับความผิดฐานละเมิดกฎหมายการปิโตรเลียมนอกชายฝั่ง โดยยอมรับว่าไม่สามารถดำเนินมาตรการที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหล และยังทำให้คนงานตกอยู่ในอันตรายด้วย
การไต่สวนโดยรัฐบาลแดนจิงโจ้ตำหนิความล้มเหลว ที่กว้างขวาง และเป็นระบบในกระบวนการทำงานของพีทีทีอีพี ออสเตรเลเชีย ว่าเป็นสาเหตุของการรั่วไหล ซึ่งรัฐบาลอิเหนาเรียกร้องค่าเสียหายต่อแนวปะการัง และการประมง ร่วม 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ปตท.สผ.ยังต้องเจอค่าปรับมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือกว่า 32.5 ล้านบาท หลังยอมรับความผิดดังกล่าวในศาลแขวงเมืองดาร์วิน โดยเคน ฟิตซ์แพทริก ผู้บริหารบริษัทกล่าวว่า ความผิดที่เกิดขึ้นนั้นไม่ควรเกิดขึ้นซ้ำอีก
“ตั้งแต่แรกเราก็ยอมรับผิดต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และเสียใจอย่างยิ่งที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น” ฟิตซ์แพทริกกล่าว และว่า “การพิจารณาวันนี้ขีดเส้นย้ำถึงเหตุการณ์มอนทานา และทำให้เราต้องมุ่งให้ความสนใจกับการดำเนินการอย่างปลอดภัย และสะอาด ในออสเตรเลีย ทั้งในเวลานี้ และในอนาคต”
ทั้งนี้ คาดว่าศาลจะพิจารณาตัดสินลงโทษบริษัทพีทีทีอีพี ออสเตรเลเชีย ในวันศุกร์ (31) นี้
