เอเอฟพี - เหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่โรงกลั่นน้ำมันหลักของเวเนซุเอลายังคงลุกลามไม่หยุด ล่าสุดไฟได้ลามไปถึงถังเก็บน้ำมันแห่งที่ 3 ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 48 ศพ
ประธานาธิบดี ฮูโก ชาเบซ แห่งเวเนซุเอลา ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน และให้ตรวจสอบหาสาเหตุของการระเบิดที่โรงกลั่นน้ำมันอามวยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(25) ซึ่งทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงต่อเนื่องนานถึง 3 วันแล้ว
สเตลลา ลูโก ผู้ว่าการรัฐฟอลคอนทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวเนซุเอลา เผยกับสถานีวิทยุท้องถิ่นว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 48 ราย ขณะที่ ราฟาเอล รามิเรซ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและน้ำมัน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานบริษัท เปโตรเลออส เด เวเนซุเอลา (PDVSA) ผู้บริหารนิคมโรงกลั่นปารากวานา ที่ตั้งของโรงกลั่นน้ำมันอามวย ยืนยันว่า เพลิงได้ลุกลามไปยังถังเก็บน้ำมันแห่งที่ 3 แล้ว
ก่อนหน้านี้ รามิเรซ ระบุว่า พนักงานดับเพลิงจะสามารถควบคุมเพลิงได้ “ภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า” แต่แล้วก็อ้างกระแสลมปั่นป่วนว่าเป็นเหตุให้ปฏิบัติการดับเพลิงเป็นไปได้ยาก
รัฐบาลแถลงว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 220 นายกำลังพยายามควบคุมเพลิงเอาไว้ให้ได้ ขณะที่เมื่อวานนี้(27) เปลวไฟและกลุ่มควันสีดำทะมึนยังมองเห็นได้จากระยะไกลหลายกิโลเมตร
เพลิงไหม้ครั้งนี้นับว่าเป็นอุบัติภัยครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ PDVSA โดยผู้เสียชีวิตกว่าครึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วย เนชันแนล การ์ด ซึ่งทำหน้าที่คุ้มกันโรงกลั่นน้ำมัน
ประธานาธิบดี ชาเบซ ซึ่งอยู่ระหว่างหาเสียงก่อนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดี 7 ตุลาคม ได้เดินทางไปยังโรงกลั่นน้ำมันอามวย เมื่อวันอาทิตย์(26) พร้อมกล่าวตำหนิผู้เชี่ยวชาญ “ที่ไร้ความรับผิดชอบ” บางคนที่โทษว่า เหตุระเบิดในโรงกลั่นน้ำมันของรัฐแห่งนี้เกิดจากการซ่อมบำรุงที่ไม่ได้มาตรฐาน
“นักปราชญ์บางคนซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าใคร เคยบอกว่า ชีวิตต้องดำเนินต่อไป” ชาเบซ กล่าว
ด้าน ลุยซา ออร์เตกา อัยการสูงสุดเวเนซุเอลา เผยยอดผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 151 ราย โดย 33 รายยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และสรุปยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดไว้ที่ 40 รายเท่านั้น