เอเจนซีส์ - รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ตอนเหนือ ซึ่งกำลังเผชิญกับไฟป่ารุนแรง วานนี้ (22) ขณะที่อีกหลายรัฐทางตะวันตกของสหรัฐฯ ก็ต้องต่อสู้กับเพลิงที่เผาผลาญพื้นที่ป่าไปเป็นจำนวนมาก
เจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แถลงว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินจะช่วยให้สามารถอนุมัติงบประมาณดับไฟป่าในเทศมณฑลตอนเหนือ ได้แก่ พลูมัส, แชสตา และเตฮามา ซึ่งเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นนับสิบจุด
สำหรับไฟป่า “พอนเดโรซา” ซึ่งมีความรุนแรงที่สุดขณะนี้ทำลายพื้นที่การเกษตรไปแล้วประมาณ 39 ตารางไมล์ เผาผลาญบ้านเรือนไปกว่า 50 หลัง และยังมีอีก 200 หลังคาเรือนที่เสี่ยงภัย ทางการรัฐแคลิฟอร์เนียระบุ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 2,100 นาย และเฮลิคอปเตอร์อีก 11 ลำ สามารถควบคุมเพลิงจุดนี้ได้แล้วประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์
ในเทศมณฑลพลูมัส ไฟป่าซึ่งได้ฉายาว่า “ชิปส์” เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้ว 97 ตารางไมล์ โดยเจ้าหน้าที่เพิ่งควบคุมเพลิงได้ราวๆ 23 เปอร์เซ็นต์
ไฟป่าที่ตรินิตี ริดจ์ และมัสแตง คอมเพล็กซ์ ในมลรัฐไอดาโฮ เผาผลาญพื้นที่การเกษตรไปประมาณ 293 ตารางไมล์ และเพิ่งสามารถควบคุมเพลิงได้ 5 และ 9 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
ไฟป่าเทย์เลอร์ บริดจ์ ผลาญบ้านเรือนไปแล้ว 51 หลังในรัฐวอชิงตัน และอีก 6 หลังทางตะวันออกของนครซีแอตเติล ความเสียหายครอบคลุมพื้นที่ราว 35 ตารางไมล์ และสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว 90 เปอร์เซ็นต์
อุณหภูมิที่ร้อนแล้งจัดในปีนี้ก่อให้เกิดไฟป่ารุนแรงในรัฐโคโลราโด ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไป 2 ราย และเผาบ้านเรือนวอดวายไป 350 หลัง เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
สรุปภาพรวมในปีนี้ ไฟป่าในสหรัฐฯ ได้เผาทำลายพิ้นที่ป่าไปราวๆ 10,800 ตารางไมล์ โดยเกิดขึ้นที่รัฐออริกอนประมาณ 1,815 ตารางไมล์