เอเอฟพี - ผู้สื่อข่าวหญิงชาวญี่ปุ่นถูกยิงเสียชีวิตขณะรายงานข่าวการปะทะระหว่างฝ่ายกบฎกับกองกำลังความมั่นคงซีเรียในเมืองอะเลปโป ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เตือนให้รัฐบาลซีเรียตระหนักถึงผลที่จะตามมาอย่างรุนแรง หากนำอาวุธเคมีออกมาใช้กวาดล้างประชาชน
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นแถลงวันนี้ (21) ว่า ผู้สื่อข่าวที่เสียชีวิตในเมืองอะเลปโปคือ มิกะ ยามาโมโตะ วัย 45 ปี
“เธอรายงานสถานการณ์การประท้วงอยู่ที่เมืองอะเลปโปทางตอนเหนือของซีเรีย ก่อนจะตกอยู่ท่ามกลางดงกระสุน” เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นซึ่งรับผิดชอบดูแลสวัสดิภาพของพลเมืองในต่างแดน เผย
ยามาโมโตะ ทำงานกับสำนักข่าวเจแปนเพรส โดยเพื่อนร่วมงานอีกคนที่ติดตามไปด้วยเป็นผู้ยืนยันศพของเธอ
นักข่าวหญิงรายนี้เริ่มทำงานกับเจแปนเพรส ตั้งแต่ปี 1995 และเคยเดินทางไปทำข่าวสงครามในอัฟกานิสถานและอิรักมาแล้ว
ก่อนหน้านี้ ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียรายงานว่า มีผู้สื่อข่าวหญิงชาวญี่ปุ่นถูกยิงเสียชีวิตในเมืองอะเลปโป และยังมีคนข่าวสูญหายไปอีก 3 คน เป็นชาวอาหรับ 2 คน และชาวตุรกีอีก 1 คน
คลิปวิดีโอที่ฝ่ายกบฏเผยแพร่ลงเว็บไซต์ยูทิวบ์เป็นภาพศพหญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น โดยอ้างว่าเป็นร่างของนักข่าวชาวญี่ปุ่นซึ่งถูกกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลสังหาร ข้างๆศพมีชายชาวเอเชียซึ่งดูเหมือนกำลังขอความช่วยเหลือจากแพทย์อยู่
ยามาโมโตะ เป็นผู้สื่อข่าวต่างชาติรายที่ 4 ที่ถูกสังหารขณะเข้าไปรายงานสถานการณ์ในซีเรีย นับตั้งแต่เหตุการณ์เริ่มปะทุขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปี 2011
ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศส ฌิลส์ ฌากิเยร์ ก็เสียชีวิตระหว่างเสนอข่าวการต่อสู้ในเมืองฮอมส์ เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากนั้น มารี คอลวิน นักหนังสือพิมพ์ชาวอเมริกันพร้อมด้วยช่างภาพชาวฝรั่งเศสก็จบชีวิตลงที่เมืองเดียวกัน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ฝากคำเตือนถึงรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด วานนี้(20)ว่า แม้สหรัฐฯ จะยังไม่มีคำสั่งแทรกแซงซีเรีย “ในขณะนี้” แต่วอชิงตันก็ “เฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” โดยเตรียมแผนรับมือเอาไว้แล้ว และสหรัฐฯ จะถือว่าการใช้อาวุธเคมีของดามัสกัสเป็นการ “ล้ำเส้น”
“รัฐบาลซีเรียจะต้องรับผลที่ตามมาอย่างรุนแรง หากเราพบว่ามีการเคลื่อนย้ายหรือเริ่มใช้อาวุธเคมี... นั่นจะทำให้สิ่งที่ผมคำนวณไว้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง” โอบามาแถลงต่อผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว
รัฐบาลซีเรียยอมรับเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า มีอาวุธเคมีในครอบครองจริง และจะใช้ก็ต่อเมื่อเกิด “การโจมตีจากภายนอก” เท่านั้น ซึ่งเป็นการเผยมิติที่อันตรายยิ่งขึ้นของสงครามกลางเมืองซีเรียที่ยืดเยื้อมานานถึง 17 เดือน
ยอดผู้เสียชีวิตในซีเรียตลอดวันจันทร์ที่ผ่านมา (20) เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 130 ราย ขณะที่องค์การสหประชาชาติก็ได้ยุติภารกิจสังเกตการณ์ในซีเรียไปแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ (19)