เอเอฟพี - รัฐบาลซีเรียเริ่มขนย้ายอาวุธเคมีไปเก็บไว้ตามสนามบินใกล้ชายแดนแล้ว กองกำลังปลดปล่อยซีเรีย (เอฟเอสเอ) ของฝ่ายกบฏ เปิดเผยวันนี้ (24) หลังจากที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศซีเรียแถลงยอมรับว่ารัฐบาลอาจตัดสินใจใช้อาวุธเคมีตอบโต้ หากถูกต่างชาติเข้ามารุกรานก่อน
“พวกเราในศูนย์บัญชาการร่วมแห่งกองกำลังปลดปล่อยซีเรียต่างทราบดีว่าอาวุธเหล่านั้นอยู่ที่ไหนและตำแหน่งใด” ถ้อยแถลงจากเอฟเอสเอระบุ
“เราขอบอกด้วยว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้เคลื่อนย้ายอาวุธบางส่วน และอุปกรณ์สำหรับผสมสารเคมีไปเก็บไว้ตามสนามบินใกล้ชายแดนแล้ว”
เอฟเอสเอระบุว่า กรุงดามัสกัสเคลื่อนย้ายอาวุธเคมีเพื่อกดดันประชาคมโลก ซึ่งต่างเรียกร้องให้เขาสละอำนาจ และยอมจำนนต่อกระแสการขับไล่ของประชาชนที่ยืดเยื้อมานานถึง 16 เดือน
“จากข้อมูลของเรา รัฐบาลเริ่มเคลื่อนย้ายอาวุธทำลายล้างสูงตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อสร้างแรงกดดันในภูมิภาคและกดดันประชาคมโลกด้วย”
อย่างไรก็ดี เอฟเอสเอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่ซีเรียจะตั้งใจใช้อาวุธเหล่านั้นโจมตีเพื่อนบ้านอย่างอิสราเอล ซึ่งเป็นชาติหนึ่งที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับคลังอาวุธเคมีของดามัสกัส
“รัฐบาลซีเรียซึ่งไม่เคยลั่นกระสุนใส่อิสราเอลแม้แต่นัดเดียวมานานถึง 3 ทศวรรษ จะไม่มีทางเอาอาวุธเคมีพวกนั้นไปใช้กับอิสราเอลอย่างแน่นอน” ถ้อยแถลงจากเอฟเอสเอระบุ
ซีเรียยอมเปิดเผยเรื่องอาวุธเคมีเป็นครั้งแรก เมื่อวานนี้ (23) โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ญิฮาด มักดิสซี เตือนว่า รัฐบาลอาจตัดสินใจเปิดฉากรบด้วยอาวุธเคมีหากถูกโจมตีจากนอกประเทศ แต่จะไม่ใช้ปราบปรามพลเมืองอย่างแน่นอน ส่วนการตัดสินใจว่าจะใช้อาวุธเหล่านั้นอย่างไรและเมื่อไหร่ เป็นอำนาจหน้าที่ของบรรดานายพลในกองทัพ
หลังจากนั้นไม่นาน มักดิสซี ก็มีท่าทีอ่อนลง และยืนยันผ่านอีเมลอีกครั้งว่าซีเรียจะไม่นำอาวุธเคมีออกมาใช้ในวิกฤตการณ์ครั้งนี้ และหากอาวุธเหล่านั้นมีอยู่จริงก็จะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัยที่สุด