เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด มีแผนที่จะใช้อาวุธเคมีกวาดล้างกบฏ และอาจเริ่มใช้ไปแล้วบางส่วน นาวาฟ ฟาเรส ทูตซีเรียคนแรกที่ตัดสินใจแปรพักตร์จากรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบีบีซี วานนี้ (16)
ฟาเรส ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดที่ละทิ้งรัฐบาลอัสซาดยืนยันว่า เวลาของประธานาธิบดีเหลือน้อยลงทุกที แต่เขาอาจเลือกที่จะ “กวาดล้างชาวซีเรียทั้งประเทศ” เพื่อให้ได้ครองอำนาจต่อ
เมื่อผู้สื่อข่าว แฟรงก์ การ์ดเนอร์ จากบีบีซีสอบถามว่า นั่นหมายถึงการใช้อาวุธเคมีใช่หรือไม่ ฟาเรส ตอบว่า “ผมเชื่อว่าถ้าประชาชนบีบให้อัสซาดจนตรอก เขาจะใช้อาวุธประเภทนั้นแน่นอน”
“มีข้อมูลที่ยังไม่ยืนยันว่ารัฐบาลเคยนำอาวุธเคมีไปใช้ที่เมืองฮอมส์แล้ว” อดีตทูตซีเรียประจำอิรัก เผย
ซีเรียมีอาวุธเคมีอยู่ในคลังแสงเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เพื่อนบ้านยิ่งทวีความหวาดวิตกว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับอาวุธเหล่านั้น หากระบอบอัสซาดถูกโค่นล้มลงไป
ฟาเรสชี้ว่า ผลที่จะติดตามมาเป็นเรื่อง “หลีกเลี่ยงไม่ได้”
“แน่นอนว่ารัฐบาลนี้จะต้องล่มสลายลงในไม่ช้า... แต่หวังว่าช่วงเวลานั้นจะมาถึงโดยเร็ว เพื่อความสูญเสียจะได้ลดน้อยลง” เขาให้สัมภาษณ์จากสถานที่ลี้ภัยในกาตาร์
ฟาเรส ซึ่งประกาศแยกตัวออกจากอัสซาด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา เคยเป็นหัวหอกคนสำคัญของรัฐบาลซีเรีย ทำให้บรรดานักเคลื่อนไหวต่างยังกังขากับการตัดสินใจแปรพักตร์ของเขา
ฝ่ายกบฏบางคนเชื่อว่าฟาเรสอาจเป็นบุคคลที่ฝ่ายตะวันตกคัดเลือกให้ร่วมรัฐบาลชั่วคราวต่อไป ขณะที่บางคนยังอดไม่ได้ที่จะกล่าวถึงอาชญากรรมที่เขาเคยก่อไว้
กองทัพซีเรียนำรถหุ้มเกราะไปหลายคันไปจอดไว้ที่ใจกลางกรุงดามัสกัสเมื่อวานนี้(16) ขณะที่ฝ่ายทหารเปิดฉากบดขยี้ฐานที่มั่นของกบฏอย่างหนักหน่วง จนผู้สังเกตการณ์ถึงกับระบุว่า เป็นเหตุนองเลือดในเขตเมืองหลวงที่รุนแรงที่สุดในรอบ 16 เดือนของการประท้วง