รอยเตอร์ - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อนุมัติโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศ วันนี้(18) โดยมีกลุ่มบริษัทของเกาหลีใต้รับสัมปทานโครงการมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เดือนธันวาคม ปี 2009 รัฐบาลยูเออีทำสัญญากับกลุ่มบริษัทเกาหลีใต้ ซึ่งนำโดยบริษัท โคเรีย อิเล็กทริก เพาเวอร์ คอร์ป (KEPCO) เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำนวน 4 แห่งไว้ตอบสนองความต้องการพลังงานในประเทศ ทว่า เอมิเรตส์ นิวเคลียร์ เอเนอร์จี คอร์ป (ENEC) ยังรอใบอนุญาตก่อสร้าง ก่อนที่จะเริ่มเทคอนกรีตสร้างเตาปฏิกรณ์ 2 หน่วยแรก ที่โรงงานเมืองบารอกาห์
“เราพยายามศึกษาบทเรียนจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ และสั่งให้ ENEC บรรจุเรื่องดังกล่าวลงในรายงานด้วย ซึ่งก็ทำส่งมาแล้ว” วิลเลียม เทรเวอร์ส ผู้อำนวยการสำนักงานกำกับดูแลด้านพลังงานนิวเคลียร์ (FANR) ของยูเออี ให้สัมภาษณ์
วิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้า ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ของญี่ปุ่น เมื่อปี 2011 กระตุ้นให้หลายประเทศทั่วโลกต้องหันมาทบทวนนโยบายด้านนิวเคลียร์ ทว่าสำนักงานกำกับดูแลพลังงานนิวเคลียร์ของยูเออียืนยันว่า จะไม่ให้เกิดความผิดพลาดเหมือนเช่นที่ญี่ปุ่น
กลุ่มบริษัทเกาหลีใต้จะรับหน้าที่ก่อสร้างและบริหารงานโรงไฟฟ้าในยูเออี ซึ่งมีกำลังผลิต 1,400 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าแห่งแรกคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในปี 2017 ส่วนแห่งที่ 2 จะเปิดใช้งานในปี 2020
ยูเออี ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก มีความมุ่งหมายที่จะเก็บทรัพยากรน้ำมันไว้เพื่อการส่งออก มากกว่าจะใช้ผลิตไฟฟ้าในประเทศ และหวังที่จะลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้าด้วย
เค็ปโก แถลงเมื่อเดือนเมษายนว่า จะเริ่มเจรจากับรัฐบาลยูเออีในปีหน้า เพื่อก่อสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มเติม