เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- นายซานานา กุสเมา นายกรัฐมนตรีติมอร์ตะวันออก ส่อเค้าจะได้อยู่ในอำนาจต่อไปหลังผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาอย่างไม่เป็นทางการที่มีการเปิดเผยวันนี้ (8)ระบุ พรรคการเมืองสายกลาง-ซ้ายของเขา คือ พรรคสภาแห่งชาติเพื่อการฟื้นฟูบูรณะติมอร์ (ซีเอ็นอาร์ที) เป็นฝ่ายมีคะแนนนำ และอาจได้คะแนนเสียงร้อยละ 36.6 จากการลงคะแนนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศในวันเสาร์(7) ขณะที่กลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายอย่างพรรคแนวร่วมการปฏิวัติเพื่อเอกราชติมอร์ตะวันออก หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ“เฟรติลิน” ภายใต้การนำของนายฟรังซิสโก กูเตร์เรส ได้คะแนนตามมาเป็นอันดับที่ 2 ที่ร้อยละ 29.8และพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลอย่าง เดโมเครติก ปาร์ตี ได้คะแนนเสียงร้อยละ 10.3
อย่างไรก็ดี ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งของติมอร์ตะวันออก ยังไม่มีการเปิดเผยผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการว่า พรรคซีเอ็นอาร์ทีสามารถคว้าที่นั่งในรัฐสภาได้เป็นจำนวนเท่าใดจากทั้ง 65 ที่นั่งที่มีการชิงชัย ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่า พรรคซีเอ็นอาร์ทีอาจได้ถึง 31 ที่นั่ง
แต่ถึงแม้พรรคซีเอ็นอาร์ทีของนายกุสเมาจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ แต่ยังมีความจำเป็นต้องจับมือกับพรรคการเมืองขนาดเล็กอื่นๆเพื่อตั้งรัฐบาลผสมขึ้นบริหารประเทศ ขณะที่ตัวนายกุสเมาวัย 66 ปีเองก็จะได้ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 5 ปี
นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้พรรคซีเอ็นอาร์ทีของนายกุสเมาจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง และได้ครองอำนาจต่อไปอย่างชอบธรรม แต่รัฐบาลชุดใหม่ของติมอร์ก็จะต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจน จากการที่ประชากรมากกว่าร้อยละ 50ของประเทศ ยังไม่อาจหลุดพ้นจากความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น รวมถึงยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงจากการที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตรียมถอนกำลังเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพที่เหลืออยู่ในติมอร์ตะวันออกราว 1,300 คนออกภายในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้รัฐบาลใหม่ของติมอร์ตะวันออกต้องเป็นผู้รับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่หลุดพ้นจากการยึดครองของทั้งโปรตุเกสและอินโดนีเซีย