เอเอฟพี - ตำรวจยูเครนเมื่อวันพุธ(4) ยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมที่วุ่นวายของฝ่ายต่อต้านกฎหมายยอมให้หลายพื้นที่ของประเทศใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการ ขณะที่ประธานาธิบดีเตือนว่าอาจยุบสภาและจัดเลือกตั้งใหม่เพื่อระงับวิกฤตที่ลุกลามใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ
ฝ่ายค้านตอบสนองอย่างโกรธกริ้วต่อกรณีที่รัฐสภายูเครน รวบรัดผ่านกฎหมายยกสถานะของภาษารัสเซียเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร(3) ทั้งที่มันไม่มีอยู่วาระการประชุมของรัฐสภาในวันนั้น
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่าประชาชนราว 1,000 คน ซึ่งรวมถึงนายวิตาลี คลิทช์โก แกนนำฝ่ายค้านและนักมวยสากลอาชีพรุ่นยักษ์คนดัง ได้จัดชุมนุมอย่างขุ่นเคืองบริเวณใจกลางกรุงเคียฟและลุกลามบานปลายจนเกิดเหตุปะทะกับตำรวจปราบจลาจลกลุ่มใหญ่
ประชาชนหลายคนถอยร่นออกมาในสภาพที่เลือดเปรอะเปื้อนตามร่างกายและมีเศษแก้วแตกกระจัดกระจายเต็มท้องถนนในพื้นที่ของการชุมนุม บริเวณรอบนอกศูนย์ประชุมแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ ซึ่งประธานาธิบดีวิคตอร์ ยานูโควิช มีกำหนดให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
คลิทช์โก เผยว่ามีการขว้างปาขวดระหว่างเหตุปะทะะ ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บตรงแขน ขณะที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาในความพยายามเข้าควบคุมสถานการณ์
"แทนที่ประเทศจะใช้ความเป็นหนึ่งเดียวช่วงศึกยูโร 2012 สร้างความประทับใจแก่ชาวยุโรปนับล้าน" ปีเตอร์ โปโรเชนโก นักธุรกิจคนดังและอดีตรัฐมนตรีพัฒนาเศรษฐกิจกล่าว "แต่รัฐสภา กลับย่างเท้าเข้าสู่การเผชิญหน้าและมันสร้างความเจ็บปวดแก่ผมเป็นอย่างมาก" เขากล่าวกับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์
ถ้อยแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีระบุในเว็บไซต์ว่าประธานาธืบดียานูโควิช เรียกรองประธานสภาและหัวหน้ากลุ่มก๊วนต่างๆเข้าหารือเร่งด่วนเพื่อลดการเผชิญหน้า ขณะที่ ยานูโควิช ระบุเหตุตึงเครียดในรัฐสภาคือ "สถานการณ์วิกฤต" พร้อมเตือนว่าอาจยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด หากเจ้าหน้าที่ล้มเหลวในการสร้างเสถียรภาพแก่รัฐสภา จากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนตุลาคม
ก่อนหน้านี้ นายโวโลดิมีร์ ลิทวิน ประธานรัฐสภา ก็เพิ่งยื่นข้อเสนอขอลาออก หลังไม่พอใจที่ไม่ได้รับแจ้งจากแกนนำในรัฐสภาคนอื่นๆว่าพวกเขาจะยกร่างกฎหมายนี้ขึ้นมาพิจารณาและลงมติเห็นชอบในวาระ 2 และวาระ 3 แบบปัจจุบันทันด่วน ขณะที่ประธานรัฐสภารายนี้ไม่ได้แม้แต่อยู่ในที่ประชุมเมื่อตอนที่มีการลงมติกันเมื่อวันอังคาร(3)
ร่างกฎหมายนี้ผลักดันโดยพรรครีเจียนส์ ของประธานาธิบดียานูโควิช อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่าผู้นำรายนี้สนับสนุนแท็คติกอันธพาลที่ลูกพรรคงัดมาใช้เพื่อผ่านกฎหมายนี้หรือไม่
ทั้งนี้ร่างกฎหมายที่เหลือเพียงขั้นตอนลงนามโดยยานูโควิช ระบุไว้ว่าภาษายูเครนยังคงเป็นภาษาราชการ แต่ก็อนุญาตให้สถานที่ต่างๆอาทิ โรงเรียน โรงพยาบาลและศาลในบางพื้นที่ ใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษาทางการเทียบเท่ากับภาษายูเครน เนื่องจากพลเมืองส่วนใหญ่ของประเทศพูดภาษารัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านมองว่าร่างกฎหมายนี้เป็นความพยายามของพรรคนายยานูโควิชที่ต้องการแบ่งแยกชาวยูเครน ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังมาถึงในเดือนตุลาคมและถือเป็นการคุกคามภาษายูเครน